รีวิว Blood Red Sky

รีวิว Blood Red Sky

 

หนัง ภาพยนตร์ Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด เล่าเรื่องราวของนาเดีย คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่กำลังจะเดินทางไปนิวยอร์คเพื่อรักษาอาการกระหายเลือด หลังจากที่เธอถูกแวมไพร์กัด เธอต้องฉีดยาเพื่อควบคุมอาการของตัวเองอยู่ตลอด แต่แล้วกลับต้องซวย เจอสลัดอากาศบุกปล้นเครื่องบิน นำทีมโดย เบิร์ก หัวหน้าสลัดพูดน้อยต่อยหนัก สมทบด้วยลูกทีมสุดโรคจิต เอช บอล ที่มีความโหดเหี้ยม

 

 

เรื่องย่อ

 

เรื่องย่อ Blood Red Sky | ฟ้าสีเลือด (2021) เมื่อนาเดีย (แพรี บอไมสเตอร์) กับลูกชายอีเลียส (คาร์ล โคด) ต้องเดินทางจากเยอรมันไปนิวยอร์กเพื่อไปรักษาอาการป่วยของเธอ พวกเขาเดินทางโดยสายการบิน Transatlantic ระหว่างการเดินทางเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายทำการปล้นเครื่องบิน โดยมีหัวหน้าทีมคือ เบิร์ก (โดมินิก เพอร์เซลล์) และลูกทีมอีก 5 คน หนึ่งในคนร้าย เอตบอล (อเล็กซานเดอร์ เชียร์) ยิงนาเดียจนเสียชีวิต แต่แล้วโรคประหลาดของนาเดียทำให้เธอยังไม่ตาย ด้วยความรักที่มีต่อลูกนาเดียพร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ลูกชายรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อีเลียสและผู้โดยสารบนเครื่องบินจะรอดพ้นจากการจี้เครื่องบินหรือไม่โรคประหลาดของนาเดียคืออะไร บทสรุปของการปล้นเครื่องบินครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามกันทาง Netflix กันเองนะคะ รับรองมันหยดทุกนาที

 

 

รีวิว Blood Red Sky เนื้อเรื่อง

 

โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ นาเดีย (แพรี บอไมสเตอ-Peri Baumeister) กำลังเดินทางจากเยอรมันไปนิวยอร์กเพื่อรักษาอาการกระหายเลือดหลังเธอถูกกัดและแพร่เชื้อแวมไพร์ กระนั้นเที่ยวบินของเธอก็กลายเป็นความโกลาหลเมื่อกลุ่มสลัดอากาศนำโดย เบิร์ก (โดมินิก เพอร์เซลล์-Dominic Purcell) ยึดเครื่องบินและจับผู้โดยสารเป็นตัวประกันหวังเรียกค่าไถ่จากทางการ นาเดียจำต้องปลุกอสูรที่หลับไหลในตัวเองเพื่อช่วยเหลือ เอเลียส (คาร์ล แอนทัน คอช – Carl Anton Koch) ลูกชายของเธอและผู้โดยสารคนอื่นให้ได้

 

นาเดียโดนยิงตาย แต่ด้วยความเป็นแวมไพร์ เธอจึงฟื้นคืนชีพขึ้นมา และพยายามปกป้อง เอลเลียต ลูกชายของเธอ โดยที่ต้องพยายามควบคุมอาการกระหายเลือดของตัวเองไปด้วย

  หนังใหม่

 

ใน หนัง ภาพยนตร์ Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด แวมไพร์ในเรื่องนี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หรือกล่าวได้ว่า มันคล้ายกับซอมบี้ ที่วิ่งเข้าหาเหยื่ออย่างเดียว ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องมีจุดเด่นที่ความมันส์แบบเลือดสาด แวมไพร์เหล่านี้พร้อมจะขย้ำเหยื่อที่เป็นมนุษย์ และแพร่เชื้อแวมไพร์เข้าสู่เหยื่อเหล่านั้น การแพร่กระจายของเชื้อแวมไพร์เช่นนี้ทำให้เราคิดถึงสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในโลกของเรา และสะท้อนความกลัวเชื้อโรคที่มนุษย์ไม่รู้จักดี

 

 

น่าสนใจว่า ใน หนัง ภาพยนตร์ Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด ความโหดเหี้ยมของคนในเรื่องนี้ เช่น เหล่าสลัดอากาศ ดูจะแซงหน้าความกระหายเลือดที่เป็นไปตามสัญชาตญาณของแวมไพร์เสียอีก เมื่อดูไปเรื่อย ๆ เราก็อดที่จะเอาใจช่วยนาเดียที่เป็นแวมไพร์ไม่ได้ เรียกได้ว่าหนังสะท้อนด้านมืดของคน ที่โลภ โกรธ หลง โดยเฉพาะตัวละคร เอช บอล ที่แม้กระทั่งเพื่อนร่วมทีมยังหาว่าเขาโรคจิต สามารถยิงคนได้โดยไม่รู้สึกอะไร และเลือกเหยื่อเป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสา

 

 

นอกจากนั้นยังมีตัวละครที่เป็นตัวแทนความโลภอีกคน คือนักเล่นหุ้น ที่พยายามทุกวิถีทางให้ตัวเองไม่ตาย แม้ว่าจะต้องกลายเป็นปีศาจก็ตาม

 

เนื้อเรื่องดูผิวเผินเหมือนไม่มีอะไรเป็นเรื่องราวของกลุ่มคนร้ายที่ทำการปล้นเครื่องบินแต่ในความไม่มีอะไร หนังสามารถเพิ่มรายละเอียดปลีกย่อยเข้าไปทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม ในทุก ๆ ซีน อย่างตอนต้นเปิดตัว ด้วยการที่ลูกชายไปเช็กอินขึ้นเครื่องบินคนเดียว ก่อนที่แม่จะตามมา ทำให้เกิดเป็นคำถามว่าทำไมไม่มาด้วยกัน? ทำไมอีเลียสถึงดูเป็นเด็กที่ฉลาดเกินวัย แล้วอาการป่วยของนาเดีย สรุปแล้วป่วยเป็นโรคอะไร แล้วอะไรเป็นสาเหตุของการป่วย ปมต่าง ๆ เหล่านี้ค่อย ๆ เฉลยออกมาระหว่างดำเนินเรื่อง

 

หลักของผู้ก่อการร้ายที่กำลังปล้นเครื่องบิน ช่วงปูเรื่องดูไม่น่าเบื่อ ดูน่าสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ใช้เวลาปูเรื่องไม่นานประมาณ 20 นาทีแรก จากนั้นความระทึกก็บังเกิดอย่างต่อเนื่อง และตลอดการดำเนินเรื่องมีอะไรให้ลุ้นตลอดเวลาที่ภัยร้ายใกล้จะจบ แต่ไม่ถึงนาที ก็จะเกิดเรื่องที่คิดไม่ถึงมาเปลี่ยนทิศทางของเรื่องเป็นอย่างนี้อยู่หลายรอบ ทำให้ต้องดูต่อเนื่องไม่อยากลุกจากที่นั่ง น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง

   ดูหนัง  

 

โครงเรื่องจะมีความคล้ายหนังฮอลลีวู้ดเรื่องอื่น ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมเนื้อเรื่องถือว่ามีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ระหว่างดูก็ลุ้นว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ตอนที่หนังเหลืออีก 30 นาทีจะจบ เรื่องก็ยังคลายปมไม่หมด ทำให้ลุ้นว่าหนังจะจบแบบปลายเปิดให้ไปติดตามภาคสองไหมเนี่ย เรียกได้ว่ามีเรื่องให้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงจะมีให้นั่งพักเป็นช่วง ๆ แต่ก็ไม่นาน ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ทำได้ถูกใจคนชอบหนังแอ็คชั่นระทึกขวัญแน่นอน (รับรองไม่หลับกลางเรื่อง)

 

นักแสดง

โดยรวมแล้วนักแสดงทั้งหมดก็ทำได้ดีสมบทบาท  ดูแล้วอินนั่งไม่ติดที่ ลุ้นตลอด แพรี บอไมสเตอร์ รับบทนาเดีย แม่ของอีเลียส มีอาการป่วยเป็นโรคประหลาด  แพรีในบทแม่ที่สามารถทำทุกอย่างเพื่อลูกได้ แสดงได้ดี สีหน้า อารมณ์ดูแล้วคือแม่ที่เป็นห่วงลูกจริง ๆ บทบู๊ แอ็คชั่น ป่วยประหลาด เธอทำได้ดีเยี่ยม แพรีเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้สนุก น่าติดตาม  และนับถือในความอดทนทุ่มเทกับการแต่งหน้าเอฟเฟกต์ของแพรีจริง ๆ

 

คาร์ล โคด รับบทอีเลียส ลูกชาย ของนาเดีย เป็นเด็กฉลาด มีไหวพริบดี เก่งเกินวัย อีเลียสแสดงสีหน้า ท่าทาง อารมณ์ ได้สมบทบาท ดูแล้วก็ทึ่งจริง ๆ กับความสามารถของหนุ่มน้อยคนนี้ ต้องบอกไว้ก่อนว่า ถึงจะมีนักแสดงเด็ก แต่ไม่ใช่หนังที่เด็กจะดูได้ เพราะหนังเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวดความรุนแรง (Violence) ที่เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไปนะ

 

โดมินิก เพอร์เซลล์ รับบทเป็น เบิร์ก หัวหน้าผู้ก่อการร้าย หลายคนคงรู้จัก โดมินิก เพอร์เซลล์ กันดี เพราะพี่เขาเป็นนักแสดงอเมริกัน เล่นหนังและซีรีส์มาหลายเรื่อง ถ้าใครเคยดู Prison Break คงจำหน้านักโทษแหกคุกคนนี้ได้ จากบทบาทในเรื่องก่อนหน้า และใบหน้าอันโหดเหี้ยม แค่พี่เขายืนเฉย ๆ ก็สมบทบาทแล้วล่ะ

 

อเล็กซานเดอร์ เชียร์ รับบทเป็น ผู้ก่อการร้าย เอตบอล เป็นคนที่ออกโรคจิตหน่อย ๆ เป็นตัวปัญหาของเรื่อง ทุกฉากที่มีแกดูแล้วจิตจริง ๆ เชื่อว่าเป็นตัวละครหนึ่งที่ทุกคนอยากให้หายไปไว ๆ

 

ไคส์ เซตที รับบทเป็น ฟาฮิด ผู้ร่วมเดินทางที่มีจิตใจดี คอยช่วยเหลือสองแม่ลูก นาเดีย-อีเลียส ฟาฮิดแสดงได้ดูเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือจริง ๆ เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นกับตัวเอง ก็ยอมรับสภาพโดยไม่บ่น (ส่วนตัวติดใจตรงนี้นิดหนึ่ง คิดว่าถ้าชีวิตจริงเจอแบบนั้น คงต้องมีโอดครวญกันบ้างหละ แต่อย่างที่บอกมันก็มีบ้าง ที่บางส่วนของเนื้อหาดูไม่สมเหตุสมผล แต่มองข้ามไปเถอะ มันไม่ใช่สาระสำคัญ

รีวิวหนัง    

 

ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากรับชมเรื่องนี้แล้ว บอกเลยประทับใจ ให้ 10/10 ไม่ได้ดูหนังแอ็คชั่นอะไรที่นั่งไม่ติด แต่ไม่อยากลุกจากที่นั่ง มานานแล้ว ชอบวิธีการดำเนินเรื่องที่สนุกน่าติดตามเนื้อเรื่องการจี้ปล้นเครื่องบิน ความรักของแม่ที่มีต่อลูก พร้อมต่อสู้เพื่อช่วยลูก ทำได้ดีออกมาเกินคาด ผสมเนื้อเรื่องออกมาอย่างลงตัว มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ผสมแอ็คชั่นกับความระทึกได้อย่างลงตัว ดูแล้วมันลุ้นต่อเนื่อง

 

 

การตัดต่อ CG เอฟเฟกต์อย่างปัง ไม่ผิดหวัง ชอบที่หนังมีการใส่ความเป็นเยอรมันเข้ามาให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นจากนักแสดงที่ส่วนมากเป็นคนเยอรมัน และมีการนำรถแบรนด์ดังของประเทศมาเข้าฉาก แถมแอบกล่าวถึงคุณสมบัติชั้นเลิศของรถสัญชาติเยอรมันแบรนด์นี้แบบเนียน ๆ อีกด้วย เรียกว่าคนเขียนบทใส่ดีเทลในทุก ๆ องค์ประกอบจริง ๆ แนะนำภาพยนตร์ Blood Red Sky ฟ้าสีเลือด สำหรับใครที่ชอบหนังแอ็คชั่นระทึกขวัญ เนื้อเรื่องแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร หนังเยอรมันเรื่องนี้ทำได้ดี ไม่ผิดหวังแน่นอน