[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

Uncharted’ เกมสุดฮิตของค่ายนอตีด็อก (Naughty Dog) ที่ทำลงแพลตฟอร์มของเพลย์สเตชัน (PlayStation) ได้กลายเป็นหนังแล้วโดยโซนี พิคเจอร์ส (Sony Pictures) ถึงกับเปิดค่ายย่อยอย่าง ‘The PlayStation Studios’ มารองรับการดัดแปลงเกมเป็นหนังโดยเฉพาะโดยมี ‘Uncharted’ เป็นหนังประเดิมค่ายแถมดึงทีมงานจากหนังแฟรนไชส์ ‘Spider-Man’ มากุมบังเหียน หนังใหม่

 

แถมถอดชุดไอ้แมงมุมของทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ออกแล้วแทนที่ด้วยชุดผจญภัยทะมัดทะแมงพร้อมด้วยการปล่อยข่าวการตลาดครั้งใหญ่ว่า ‘Uncharted’ ยังเป็นเกมโปรดที่ทอม ฮอลแลนด์เล่นตอนถ่ายหนัง ‘Spider-Man Homecoming’ อีกด้วยเรียกได้ว่ามีองค์ประกอบการันตีขนาดนี้แถมเตรียมเปิดประตูรับทรัพย์เต็มที่โดยได้ผู้กำกับอย่างรูเบน เฟลสเชอร์ (Ruben Fleischer) ที่กำกับทั้ง ‘Venom’ และ ‘Zombieland’ มาการันตีว่าหนังจะออกมาถูกใจคนดูแน่นอน

 

 

 เนื้อเรื่อง [รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

หนังเริ่มเรื่องด้วยวัยเด็กของ นาธาน เดรค ที่ร่วมมือกันหวังปล้นแผนที่ขุมทรัพย์แต่กลับถูกจับได้ทำให้แซมพี่ชายของเขาต้องหายไปจากชีวิตจนปัจจุบัน เดรค (รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์) ต้องเลี้ยงชีพด้วยการเป็นบาร์เทนเดอร์และแอบจิ๊กของลูกค้าเลี้ยงชีพแต่กลอุบายของเขาก็ถูกจับไต๋ได้โดยวิกเตอร์ ซัลลิแวน (รับบทโดย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก Mark Wahlberg) ยอดโจรสมองเพชรที่ชวนเขาร่วมภารกิจล่าขุมทรัพย์โดยใช้ปริศนาการหายตัวไปของแซมมาเป็นสิ่งล่อใจ

 

แต่พวกเขาไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่ออกตามล่าสมบัติแต่ยังมี ซานติอาโก มอนคาดา (รับบทโดย แอนโทนิโอ แบนเดอราส Antonio Banderas) นักธุรกิจขาใหญ่ พร้อมด้วยแบรดด็อก (รับบทโดย ทาทิ แกเบรียล Tati Gabrielle) มือสังหารสาวโหดที่ยอมมือเปื้อนเลือดเพื่อให้ได้ครองสมบัติ รวมถึงโคลอี เฟรเซอร์ (รับบทโดย โซเฟีย อาลี Sophia Ali) ผู้ครองกุญแจอีกหนึ่งดอก โดยงานนี้เดรคไม่อาจไว้ใจใครได้เลยแม้กระทั่งซัลลิแวน

 

 

 

แม้ว่าหนังจะได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างทอม ฮอลแลนด์มารับบทตัวละครที่แฟนเกมชื่นชอบ แต่ด้วยบทหนังที่แบนราบเกินไปมันก็ไม่ทำให้ฮอลแลนด์ดูมีเสน่ห์ในฐานะนักผจญภัยขาบู๊เท่าไหร่นักแม้ว่าจะมีฉากถอดเสื้อเซอร์วิสสาว ๆ ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ ส่วนมาร์ค วาห์ลเบิร์กก็เอาตัวรอดไปได้ด้วยลุคแบดบอยแต่ก็ดันดูไม่น่าเชื่อถือในฐานะโจรเศรษฐีเท่าไหร่นัก

 

 

 

ตรงกันข้ามกับบรรดานักแสดงที่มาสมทบโดยเฉพาะแอนโทนิโอ แบนเดอราสที่เสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ล้นเหลือมาก สำเนียงสแปนนิชก็เซ็กซี่จนกลบบรรดานักแสดงหลาน ๆ ซะมิดเชียวหรือจะเป็น ทาทิ แกเบรียล ในบทมือสังหารสาวก็ยังทำให้เราเห็นความเท่ของเธอ หรือจะเป็น โซเฟีย อาลี ที่ได้โชว์ความสวยคมคายแบบสาวลูกครึ่งตะวันออกกลางจนอย่างน้อยคนดูหนุ่มๆ ก็มีอะไรให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง

 

 

ย้ำกันอีกทีว่าแม้จะพลาดและไม่น่าจดจำ แต่อย่างน้อย ‘Uncharted’ ก็มาเติมเต็มให้โรงหนังมีโปรแกรมที่ดึงดูดคนดูกลุ่มใหญ่ได้ และที่สำคัญหนังก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในฐานะหนังบันเทิงเรื่องหนึ่ง เพียงแต่หากอยากให้ตัวหนังมีฐานแฟนคลับเท่าเกมอาจต้องพัฒนาบทหนังและตัวละครนำให้น่าสนใจกว่านี้อีกเยอะ

[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

ความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้ดู ผมกลรู้สึกว่าสนุกและบันเทิงดี ไม่ได้แย่สำหรับผม และค่อนข้างชอบด้วย แต่ก็มีจุดหลักๆที่ไม่ชอบเหมือนกัน ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนเกมส์ Uncgarted และไม่ได้รู้เนื้อเรื่องของเกมส์มาก่อน เข้าไปดูแบบไม่รู้อะไรเลย แต่บอกเลยว่ารู้เรื่องทั้งหมด เข้าใจได้อย่างง่ายๆเลย เพราะหนังเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปก่อนเหตุการณ์ในเกมส์ภาคแรก เป็นเรื่องราวของ นาธาน เดรก ในวัยหนุ่ม ก็คือเริ่มตั้งแต่ต้น ดังนั้นคนไม่ใช่แฟนเกมส์ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง ตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดูได้เลย อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่คงไม่ถึงขนาดเสียดายค่าตั๋ว เพราะภาพรวมของหนังถือว่าทำออกมาได้ดีอยู่ เป็นหนังที่ทำเพื่อทุกคนที่ไม่ลืมที่จะเอาใจแฟนเกมส์ และก็ไม่ทอดทิ้งคนที่ไม่ใช่แฟนเกมส์

 

ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้มีโอกาสสร้างรายได้แบบเต็มที่ เพื่อนะได้เป็นแฟรนไชส์และมีภาคต่อๆไป ส่วนตัวผมเชียร์ให้ประสบความสำเร็จและได้ไปต่อนะ เพราะถ้าไปต่อก็จะเข้าเนื้อเรื่องตามในเกมส์ ซึ่งอาจทำออกมาได้ดีก็ได้ ผมมองว่าภาคแรกนี้เป็นเหมือนแค่การอุ่นเครื่องซะมากกว่า ถ้าภาคต่อไปได้สร้างขึ้นมาจริงๆ และทำการปรับปรุงจุดที่ผิดพลาดในภาคนี้ไปได้ มันจะกลายเป็นหนังที่สนุกมากๆแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้ก็มีจุดที่ทำได้ดีมากๆ และน่าจดจำอยู่เช่นเดียวกัน   ดูหนัง   

 

 

ฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เวอร์วังอลังการ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม  และมอบความบันเทิงใฟ้ผมได้พอสมควร เรียกได้ว่าฉากแอ็คชั่นเป็นเหมือนข้อดีของหนังเรื่องนี้เลย มันสะใจถึงใจ ออกแบบฉากบู๊ คิวบู๊ออกมาได้ดี ส่วนตัวผมชอบฉากบู๊ของ ทอม ฮอลแลนด์ เพราะด้วยความที่ผู้กำกับดีไซน์ตัวละคร นาธาน เดรก เป็นตัวละครที่ฉลาด คล่องแคล่วว่องไว ทำให้ฉากแอ็คชั่นของตัวละครนี้มันดูเพลินตาดี แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้เราสลัดภาพสไปเดอร์แมนที่ทอมเล่นไว้ไม่ออก เนื่องจากตัวละครสองตัวนี้มีความคล่องแคล่วว่องไวเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มากมายแค่บางฉากเท่านั้น แต่ทอมก็ยังมีความเป็น นาธาน เดรกอยู่พอสมควร ส่วนฉากแอ็คชั่นในเรื่องที่ผมชอบ ก็จะเป็นฉากที่ทอมสู้แบบบาเทนเดอร์ โคตรเท่ห์และมีความปั่นดี อีกฉากก็ตอนท้ายๆที่ทอมกับมาร์ค สู้แบบคู่หูบนเรือ ฉากนั้นทำออกมาได้ดีเลย ให้อารมณ์หนังคู่หูแอ็คชั่น-คอมเมดี้ โดยรวมแบ้วฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้ผมค่อนข้างประทับใจและเอ็นจอยกับมันมากๆ

 

 

บทแบะการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ ผมขอแยกกันนะ ในด้านของการดำเนินเรื่อง ผมมองว่าทำได้ดีแล้ว เพราะดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็ว ลำดับเหตุการณ์ต่างๆได้ดี เข้าใจง่าย กระชับไม่ยืดเยื้อ ส่วนในด้านของบท ผมรู้สึกว่ายังทำออกมาได้ ลตามมาตรฐานทั่วไป ซึ่งผมมองว่าในจุดนี้แหละที่แฟนเกมส์รู้สึกผิดหวัง ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่ยังไปได้ไม่สุดทางมันไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมายขนาดนั้น หนังจะโฟกัสไปที่ภารกิจ แต่ก็ยังไปไม่สุดเหมือนกัน และในส่วนของบทที่ถือว่าทำได้ยังไม่ดีพอ คือเรื่องการแก้ไขปริศนาในช่วงกลางเรื่อง ตอนที่ลงใต้ดินไปไขกุญแจนั่น ทุกอย่างมันดูง่ายไปหมด ไม่ค่อยมีอุปสรรคหรือกับดักอะไรมากนัก แบบแปปๆหารูกุญแจเจอแล้ว มันง่ายและแทบไม่พลาดเลย มันส่งผลให้คนดูไม่อินตามหรือรู้สึกลุ้นไปกับตัวละคร

 

ถ้าทำในจุดนี้ให้มีอุปสรรคหน่อย ผิดพลาดบ้าง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ใส่ความดราม่าจริงจังเข้าไปอีกหน่อย จะทำให้หนังมันสมบูรณ์แบบมากๆ เพราะผมเคยดูพี่เอก Hrk เล่นเกมส์นี้มาก่อน จำได้ว่าเวลาไขปริศนาต่างๆนี่ในเกมส์ทำออกมาได้ดีมากๆ ผมถึงบอกว่าหนังภาคนี้เป็นแค่เรื่องราวก่อนเกมส์ภาคแรก ผมจังอยากเห็นภาคต่อที่นำเนื้อเรื่องในเกมส์มาทำ และทำฉากปริศนาตามเกมส์เลย บวกกับฉากแอ็คชั่นที่ทำได้ดีอยู่แล้ว จะทำให้มันไปได้สุดทาง และน่าจดจำแน่นอน

 

 

ในด้านงานภาพถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ผมค่อนข้างชอบในจุดนี้ ทั้งเรื่องก็ถ่ายออกมาได้สวยตามมาตรฐาน แต่จะมีฉากบนเครื่องบิน และฉากแอ็คชั่นช่วงท้ายเรื่อง ที่ผมมองว่าทำออกมาได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากบนเครื่องบิน ภาพสวยมากๆ ปรับฟิลเตอร์สีท้องฟ้าสวยมากๆฉากนี้ ต่อมาเรื่องงานวิชวลเอฟเฟค ในส่วนนี้ผมมองว่าทำได้ดีมากๆเลย วิชวลเอฟเฟคเนียนตา สวยงามทุกฉากทุกซีน ไม่มีความรู้สึกว่าลอยเลย ทำได้ดูธรรมชาติมากๆ ยิ่งฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่องที่เป็นแอ็คชั่นแบบเวอร์วังอลังการ ก็ยังทำวิชวลเอฟเฟคออกมาได้ยอดเยี่ยม เก็บรายละเอียดยิบย่อยดีมากจริงๆ ส่วนนี้ต้องยอมรับเพราะเป็นจุดแข็งของทางค่าย Sony Pictures เลย เรื่องงานวิชวลเอฟเฟคเนี่ย มาตรฐานยังดีเหมือนเดิม รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

[รีวิว] Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก

 

 

ตัวละครที่ประทับใจ

 

ตัวละครที่ผมประทับใจในหนังเรื่องนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 ตัวละครหลักอย่าง นาธาน เดรก ที่รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์ และ ซัลลี่ ที่รับบทโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ผมรู้สึกว่าสองคนนี้เล่นเป็นคู่หูกันได้เข้าขาอยู่พอสมควรเลย แม้ว่า ทอม ฮอลแลนด์ ในเรื่องเรื่องนี้ ยังมีความรู้สึกให้เรานึกถึงสไปเดอร์แมนอยู่ตลอด สลัดภาพจำของผมยังไม่ได้เท่าไหร่ แต่แค่บางฉาก ในภาพรวมแล้วเรื่องนี้ก็เ่นได้ดีตามมาตรฐานของเขา ด้วยความที่เป็นหนังแนวเอาบันเทิงด้วย เลยไม่ได้มีซีนดราม่าหรืออะไรให้ได้แสดงฝีมือมากนัก ในส่วนของมาร์ค วอห์ลเบิร์ก ถือว่าทำได้ดีเลย

 

ผมชอบตัวละครของเขามากที่สุด เล่นเป็นคนเห็นแก่ตัวจอมหักหลัง แถมเล่นได้ธรรมชาติอีก ฝจนผมเชื่อว่านี่คือซัลลี่จริงๆ ซึ่งผมไม่เคยเล่นเกมส์เลยไม่รู้ว่าในเกมส์ ซัลลี่เป็นแบบในหนังหรือเปล่า ผมวัดแค่จากในหนังถือว่ามาร์คแสดงได้ดี แต่ก็ไม่ได่ถึงกับดีมาก ส่วนตัวผมมองว่านักแสดงทั้ง 2 คนนี้มีฝีมืออยู่พอสมควร ถ้าบทไปได้สุดกว่านี้ ก็คงได้เห็นพวกเขาปล่อยของ แต่ภาพรวมก็ถือว่าทั้งคู่ทำได้ดีเลยทีเดียว

 

เอ็นเครดิตท้ายเรื่องปูเรื่องราวสู่ภาค 2 ที่น่าติดตาม

รีวิว Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลกหลังจากดูจบแล้วอย่าพึ่งรีบลุกรีบกลับกันนะครับ เพราะเรื่องนี้มีเอ็นเครดิต ท้ายเรื่อง ที่จะเป็นการปูเรื่องราวไปสู่ภาค 2 จากเอ็นเครดิตที่ออกมา ให้เราเห็นถึงคู่หู  คู่ฮา เริ่มไปทำภารกิจล่าสมบัติกันอีกครั้ง โดยในเอ็นเครดิต ให้เราได้เห็นว่สตัวละคร ซัลลี่ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) นั้นมีภาพลักษณ์ที่เปลั่ยนไป ก็คือมีหนวดเพิ่มมา ซึ่งผมได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา สรุปได้ว่า ในเวอร์ชั่นเกมส์ตัวละครซัลลี่นั้นปกติมีหนวด และจากเรื่องราวที่ปูไว้ในเอ็นเครดิต ก็คือการปูไปสู่เนื้อเรื่องในเกมส์ภาคแรกอย่าง Uncharted: Drake’s Fortune

 

ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2007 ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้จริงๆ แสดงว่าถ้าหนังประสบความสำเร็จและได้สร้างภาคต่อ ภาคต่อนี้ก็จะเป็นเรื่องราวเดียวกับในเกมส์ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ทีมผู้สร้างได้แก้ตัวและมอบแฟนเซอร์วิสให้กับแฟนเกมส์ได้เต็มที่ ผมจึงอยากให้หนังเรื่องนี้ได้ไปต่อ น่าติดตามมากๆ เพราะเนื้อเรื่องในเกมส์ก็สนุกและดีงามอยู่แล้ว ซึ่งฝันของผมจะเป็นจริงไกมคงต้องรอติดตามกันต่อไป ใครที่ยังไม่ได้ดูก็อยากให้ลองไปดูกันนะครับ อย่าเชื่อคะแนนวิจารณ์ หรือคำพูดของคนอื่น แต่จงไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองดีกว่าครับ รีวิวหนัง     

 

สรุปและให้คะแนน

รีวิว Uncharted ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลกหลังจากรีวิวมาทั้งหมด ผมขอสรุปภาพรวมของหนังเรื่องนี้ ตามความรู้สึกส่วนตัวของผมนั้น ผมมองว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอสมควร เพราะยังสามารถมอบความสนุก และความบันเทิงให้กับผมได้ และไม่รู้สึกเสียดายตังค์หรือเสียดายเวลา แม้ว่าจะมีหลายจุดที่ยังไม่ดีพอ

 

แต่ก็ยังมีข้อดีหลายอย่างที่ช่วยประคองให้หนังเรื่องนี้ไม่ออกมาแย่ แต่ถ้าถามว่าถึงกับห้ามพลาดเลยไหม ก็ขอตอบตามตรงว่าไม่ได้ขนาดนั้น คือ เลือกจะดูก็ได้ หรือเลือกจะไม่ดูก็ไม่ได้พลาดอะไรไป แต่ถ้าว่างๆก็ดูได้สนุกดี ให้อารมณ์เป็นหนังสำหรับดูในวันหยุด พักผ่อนสบายๆ ไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์อะไรมากมาย เหมาะกับพาเพื่อนฝูงหรือครอบครัวไปดู

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *