รีวิว The Weekend Away

รีวิว The Weekend Away

รีวิว The Weekend Away

 

 

 

รีวิว The Weekend Away หนังหักมุม แนวสืบสวนหาความจริง บทความรีวิวนี้เขียนมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

 

รีวิว The Weekend Away เรื่องย่อ

 

เรื่องราวของเพื่อนรักสาวสวยสองคน ได้แก่ เบธ (เลห์ตัน มีสเตอร์) และ เคต ทอมป์สัน (คริสติน่า วูล์ฟ) โดยที่ เบธ เป็นแม่ลูกอ่อนที่พึ่งจะแต่งงานมาได้ไม่นานนัก และเบื่อกับการที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านไปวันๆ เธอจึงตัดสินใจเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปเที่ยววันหยุดพักร้อนกับเคตที่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเคต เพื่อนรักของเธอก็กำลังเบื่อๆพอดี เพราะเธอพึ่งหย่าขาดจากสามีมาได้ไม่นาน ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน เมื่อทั้งคู่มาเจอกันที่โครเอเชีย ทั้งคู่ก็ทำการจองที่พัก โดยเลือกเข้าพักที่แมนชั่นสุดหรูริมแม่น้ำ ซึ่งมีเจ้าของที่พักเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่นัก และเมื่อตกกลางคืน เคตที่พึ่งหย่ากับสามีและเบื่อกับชีวิต จึงชวนเคธออกไปเที่ยวปาร์ตี้ แฮงก์เอาท์กันให้สุดเหวี่ยง แม้ว่าเคธจะไม่อยากออกไป แต่สุดท้ายก็ต้องยอมและออกไปกับเคต และเมื่อเดินทางไปถึงไนต์คลับ

 

รีวิว The Weekend Away

 

ทั้งคู่ก็ได้เจอกับหนุ่มหล่อสองคน และเคตก็ยุให้เบธไปนั่งดื่มกินกับหนุ่มสองคนนี้ จนสุดท้ายค่ำคืนนี้จบด้วยการที่ เบธเมาจนภาพตัด เพราะเธอไม่ค่อยได้ดื่มจึงดื่มไม่เก่งมากนัก แต่เมื่อเธอตื่นเช้าขึ้นมาในห้องพักที่เช่าไว้ กลับพบว่าเพื่อนรักของเธอ เคต ไม่ได้อยู่ที่ห้อง และเธอยังพบกับแก้วที่แตกอยู่บนพื้นห้อง และรอยเลือด เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปหาตำรวจท่องเที่ยวและขอความช่วยเหลือว่าเพื่อนเธอหายไป แต่ตำรวจกลับคิดว่าเคตคงจะเมามากและเมาหลับอยู่ที่ไหนซักแห่ง เพราะยังไม่หายตัวไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตำรวจจึงไม่รับแจ้งความ แต่เบธไม่เชื่ออย่างนั้น เธอคิดว่าต้องเกิดอะไรไม่ดีกับเพื่อนรักของเธอแน่ๆ เธอจึงเริ่มตัดสินใจตามหาเพื่อนของเธอด้วยตัวเอง บทสรุปจะเป็นอย่างไร และเบธจะตามหาเคตเจอหรือไม่ สามารถรับชมด้วยตาตัวเองได้แล้วตอนนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix

 

เว็บดูหนัง    

บทและการดำเนินเรื่อง

 

 

ส่วนแรกที่จะมาพูดถึงจะเป็นส่วนของบทและการดำเนินเรื่อง ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้ทำได้ดีพอสมควร ไม่ถึงกับดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่ ยังพอดูได้แบบเพลินๆและสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ โดยส่วนของบทนั้นทำออกมาได้ตามมาตรฐาน บทพูดต่างๆดี การวางปม การหักมุม ก็ทำออกมาได้ดีแต่ไม่ถึงกับว้าว หรือทำให้คนดูเหวอขนาดนั้น ส่วนตัวขอชมที่เขียนบทให้ตัวละครสมเหตุสมผล ตัวนางเอกฉลาดดี มีไหวพริบ ไม่มีซีนไหนที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าตัวละครทำอะไรโง่ๆจนรู้สึกขัดใจ ส่วนตัวผมไม่รู้ว่าหนังทุนสร้างเท่าไหร่ แต่ดูจากบรรยากาศต่างๆผมว่าน่าจะไม่ได้ทุนสูงมาก จึงอยากจะชม เพราะบทที่เขียนมา มันเหมาะกับหนังที่ไม่ต้องทุนสูงมากนัก แต่ก็ทำให้ออกมาสนุกได้ ดูเรียบง่าย สมจริง ไม่ได้มีฉากหรือเหตุการณ์ไหนที่เวอร์ๆเกินจริง ซึ่งผมว่าทำได้ดีมากๆแล้ว

 

 

รีวิวหนัง 

ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ในส่วนนี้ต้องขอชมเพราะทำได้ดีเช่นกัน ด้วยบทที่ไม่ได้แย่อยู่แล้ว กับการดำเนินเรื่องที่กระชับ ตรงประเด็น เข้าใจง่าย มันเลยยิ่งทำให้หนังน่าติดตาม ไม่มีการเล่าอะไรที่ไม่จำเป็นหรือฉากที่น่าเบื่อก็ไม่มี ส่วนตัวผมชอบการที่เลือกดำเนินเรื่องราวทั้งหมดผ่านตัวละคร เบธ เพียงคนเดียว เพราะมันทำให้เราได้ลุ้นตามไปกับตัวละคร ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าให้ซีนตัวละครอื่นด้วย อาจจะทำให้เราได้รู้ความจริงหรือปะติดปะต่อไปเรื่องราวได้ก่อน แต่เรื่องนี้เลือกที่จะให้ตามติดไปกับนางเอก และรู้เบาะแสทุกอย่างพร้อมกับตัวละครทีเดียว สิ่งนี้มันเป็นส่วนช่วยบิ้วอารมณ์คนดู ให้ตื่นเต้นตามไปกับสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในเรื่อง แถมยังช่วยให้คนดูได้จดจ่อไปกับหนัง และตามติดเรื่องราวไปได้จนจบ

รีวิว The Weekend Away

 

การแสดง

 

ในส่วนของการแสดงของเรื่องนี้นั้น ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก ธรรมดาตามมาตรฐานทั่วไป ทุกคนก็แสดงได้ดีเลย ไม่ได้แย่หรือเล่นแข็งเป็นหิน แต่ส่วนใหญ่เรื่องราวที่ดำเนินทั้งเรื่อง จะตามติดแค่กับตัวละครเบธ เพียงคนเดียว ทำให้คนอื่นๆในเรื่องไม่ได้โชว์การแสดงมากเท่าไหร่ แต่ก็มีตัวละครอื่นๆอีก 2-3 คนที่มีบทบาทพอสมควร แต่ก็ส่วนน้อย ซึ่งการตัดสินใจเลือกให้ตัวละครนางเอกเป็นคนนำและดำเนินเรื่องราวทั้งหมดนั้น มันช่วยให้คนตื่นเต้นไปกับหนังได้ก็จริง แต่ถ้าหากนักแสดงทำได้ไม่ดี มันจะกลายเป็นผลร้ายทันที

 

 

เว็บหนัง  

 

เพราะจะส่งผลให้หนังออกมาแย่ และไม่น่าดู แต่เรื่องนี้นั้นโชคดีไม่น้อย เพราะนักแสดงอย่าง เลห์ตัน มีสเตอร์ ที่มารับบทเป็นเบธ ดันทำได้ดี และการแสดงของเธอก็ดีพอที่จะดึงให้คนดูนั่งดูเธอไปต่อจนจบ การแสดงเธอเป็นธรรมชาติ ไม่เล่นใหญ่จนเกินเบอร์ แสดงได้สมบทบาท ทำให้ผมเชื่อจริงๆว่าเธอคือเบธ โดยรวมแล้วทำได้ดี แต่ไม่ถึงกับดีมากหรือเพอร์เฟ็ค ซึ่งการแสดงเพียงแค่นี้ก็ดีพอและเหมาะกับหนังเรื่องนี้แล้ว

 

 

ถ้าหากใครเป็นแฟนซีรีส์ Gossip Girl แล้วล่ะก็ ต้องคุ้นหน้านางเอกแน่นอน เธอคือแบลร์จากเรื่องนั้น และในเรื่องนี้ Leighton Meester เธอก็ได้รับบทเป็นเบธ กับหนังสืบสวนทริลเลอร์ ที่ต้องตามหาว่า ใครฆ่าเพื่อนสนิทของเธอกันแน่

 

 

ถ้าหากว่ามองดูผิวเผินจากพล็อตเรื่อง ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าพล็อตประมาณไปพักร้อน เพื่อนตาย ต้องตามสืบหาคนร้ายเพราะตัวเองเมา จำอะไรไม่ได้ มันไม่ใช่ครั้งแรกเลย คือเป็นพล็อตเรื่องแนวสืบสวนที่เกลื่อนกลาดในตลาดสื่อมาก โดยเรื่องนี้เองก็ดัดแปลงมาจากนิยายอีกทีหนึ่ง

 

การดำเนินเรื่องก็จะค่อยๆ พาเราไปรู้จักกับตัวละครอย่างเบธ ว่าเธอคือใคร ทำไมถึงต้องมาที่โครเอเชียนี้ และสิ่งที่ดีงามมากในเรื่องเลยก็คือเซ็ตอัพฉากหลังของเรื่องที่เป็นเมืองพักร้อน บรรยากาศดี วิวสวย เมืองสวยมาก และมันจะพาเราไปทำความรู้จักกับเคท เพื่อนสนิทของนางเอกเรา และการดำเนินเรื่องก็ไม่ยืดเยื้อเวิ่นเว้อมาก เพราะหนังยาวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

 

ในระหว่างทางนั้นก็จะมีการแนะนำตัวละครเพิ่มเติมที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่มีบทบาท มีซัมติงเข้ามาเรื่อยๆ อย่างเจ้าของโรงแรมที่นางเอกกับเพื่อนพัก คนขับรถแท็กซี่ ผู้ชายที่พวกนางเอกเจอตอนไปเที่ยว นายตำรวจ ซึ่งตัวละครพวกนี้เป็นเหมือนตัวหลอก ตัวล่อให้เรารู้สึกสงสัย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราวการตายของเพื่อนนางเอกหรือเปล่า

 

ด้วยความเป็นหนังสืบสวน แต่ไม่ได้แบบเป็นแนวนักสืบ ตำรวจอะไรพวกนั้น การเล่าเรื่องผ่านบทพูดตัวละคร การใส่คำใบ้ เบาะแสต่างๆ ถึงความเชื่อมโยงของตัวละคร เช่นบทพูดระหว่างกินข้าวของเบธกับเพื่อนที่มีการคุยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามี ปัญหาชีวิต มันจะสอดแทรกรายละเอียดสำคัญของตัวละครเข้ามาในบทพูดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ทำให้คนที่ชอบดูแนวสืบสวน ช่างสังเกต ได้ร่วมคิดวิเคราะห์ตามเรื่อง พร้อมที่จะให้หนังมันพาผู้ชมไปเจอเบาะแสต่อไป ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ในอีกแง่นึง ถ้าหากว่าหลุดโฟกัสสักทีหนึ่งแล้วล่ะก็ อาจจะพลาดเบาะแสสำคัญ หรือฉากสำคัญบางอย่างไปเลยก็ได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องตั้งใจดูให้ดีหน่อย ด้วยตัวหนังมีพากย์ไทยให้ได้รับชม บางคนอาจจะเปิดไปแล้วฟังแค่เสียง อาจจะพลาดช็อตบางช็อตได้ ต้องระวังนิดนึง

 

มันเลยทำให้การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้หวือหวาแต่ก็น่าติดตามอยู่ในระดับที่โอเค ไม่ได้ดีเด่น แต่ก็ไม่ได้แย่ การวางปม มีลูกหลอก ลูกล่อลูกชนว่าใครจะมีโอกาสเป็นคนร้าย แรงจูงใจแต่ละคนแบบไหน เบื้องลึกเบื้องหลังที่มีรายละเอียด แต่ในรายละเอียดนั้น มันสมเหตุสมผลมั้ยล่ะ?

รีวิว The Weekend Away

 

เรื่องราวหลักจริงๆ เลย มันคือเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทสองคนที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น แล้วความลับดำมืดบางอย่างมันก็ค่อยๆ เผยออกมาทีละเปลาะ และนี่คือเรื่องราวหลัก ที่ตัวหนังนั้นนำเสนอน้อยเกินไปจนทำให้เราไม่ได้รู้สึกอินไปกับตัวละครของทางฝั่ง เคท เพื่อนที่เสียชีวิต ว่าเธอนั้นสนิทกับนางเอก หรือมีความสำคัญกับนางเอก อะไรยังไง มันควรที่จะเล่าเพื่อให้มีอิมแพคมากกว่าที่จะมาตายเพื่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นกับนางเอกเฉยๆ มันเลยทำให้ฝั่งนางเอก ที่มีการเฉลยดราม่าหรือปมบางอย่างเลยดูแบบ ไม่ได้ชวนลุ้น ชวนว้าว หรือหักมุม เดาได้ด้วยซ้ำว่าจะออกมาประมาณไหน

 

 

อีกอย่างเลยก็คือเหล่าตัวละครตัวหลอกนั้น ที่ใส่มาเป็นเหมือนกับสีสัน ให้เรื่องราวชวนลุ้น เช่นเซน คนขับแท็กซี่ที่มีโมเมนต์กับนางเอก พยายามช่วยนางเอก แต่ไม่ได้บอกเหตุผลว่า ทำไมตัวละครนี้ถึงยอมช่วยนางเอกทุกวิถีทาง และเชื่อใจนางเอกขนาดนั้น หรือปมบางอย่างที่ดูวางไว้แบบ เป๊ะเหลือเกิน เช่นเรื่องเจ้าของโรงแรมที่เป็นอีก 1 เบาะแสสำคัญ มันดูจงใจเกินไป จนกลายเป็นว่าทุกอย่างในเรื่อง เดินตามรอยสูตรสำเร็จแนวสืบสวนทั้งนั้น ไม่ได้มีความแปลกใหม่ หรือชวนตื่นเต้น หักมุมก็ไม่อิมแพค ง่ายๆ เลยคือเดาได้ทั้งนั้น และลองมองย้อนกลับไปที่โดยรวม นั่นก็คือ พล็อตเรื่อง มันรู้สึกถึงความพังมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ได้น่าสนใจเลย

 

 

มีความเป็นทริลเลอร์ วิ่งไล่ล่ากันอยู่สองสามฉาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าตื่นเต้นขึ้น เป็นอีกแค่เพียงองค์ประกอบหนึ่งของหนังเฉยๆ นอกเหนือจากความสวยงามของโครเอเชีย ในแง่ของการเป็นหนังสืบสวนต้องบอกเลยว่าจืดชืด หนังสืบสวนต้องทำให้ผู้ชมอยากรู้เรื่องราวที่เป็นปริศนาที่มันจะเฉลยออกมา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เลย ความเป็นปริศนาของเรื่องนี้ไม่ได้น่าสนใจ มีการจะใส่ประเด็นเรื่องตำรวจโกง เรื่องเชื้อชาติ แต่ก็ดูทื่อๆ จนภาพรวมมันเลยเป็นหนังสืบสวนที่มีดีแค่งานภาพเท่านั้น

 

 

งานภาพและการโปรดักชั่น

 

ส่วนสุดท้ายที่จะพูดถึงคืองานภาพและการโปรดักชั่น ในส่วนนี้ต้องบอกเลยว่าทำได้ดีพอสมควร และทุกอย่างมันเหมาะเจาะกับแนวหนังแล้วด้วย สถานที่โลเคชั่นต่างๆเลือกได้ดีมาก สวยงาม ดูแล้วอยากไปเที่ยวด้วยเลย งานภาพก็ทำออกมาได่้ดีตามมาตรฐาน มุมกล้องต่างๆก็ดี ไม่มีความรู้สึกขัดตาหรือดูปลอมเลย การโปรดักชั่นต่างๆก็ทำออกมาได้ดีเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นหรืออะไรทำนองนั้น เลยไม่ได้มีฉากยากๆที่เวอร์วัง จึงทำให้การโปรดักชั่นไม่ต้องงานละเอียดมากมาย จะมีก็แค่การจัดแสงสีต่างๆในเรื่อง เสื้อผ้าหน้าผมตัวละคร ซึ่งทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว

 

 ดูหนัง

รวมถึงเสียงประกอบในฉากต่างๆ ซึ่งทำได้ดีเลยส่วนนี้ซาวน์เอ็ฟเฟ็คยังพอช่วยบิ้วอารมณ์ให้ผมได้พอสมควร ไม่ถึงกับดีแต่ก็ไม่ได้แย่ สำหรับผมด้านงานภาพและงานโปรดักชั่นทำได้ดีก็จริง แต่ผมมองว่ามันไปได้มากกว่านี้อีกเยอะพอสมควร เพราะทำออกมาได้ดีก็จริง แต่ก็แค่ระดับธรรมดาตามมาตรฐานทั่วไป

 

 

สรุปภาพรวมทั้งหมด ผมมองว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาใช้ได้ แม้ว่าจะไม่ถึงกับดีแบบยกนิ้ว แต่ก็ดูสนุกๆเพลินๆฆ่าเวลาในตอนที่ว่างๆได้ ทั้งบท การดำเนินเรื่อง การแสดง งานภาพ เสื้อผ้าหน้าผม โทนสีของภาพ เสียงประกอบ โลเคชั่น และการโปรดักชั่นต่างๆ ทั้งหมดทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน ไม่ดีและไม่แย่ อยู่แค่กลางๆ แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะน่าติดตามก็จริง แต่เพราะบทที่ไม่ได้เข้มข้น หรือมีรายละเอียดให้เราได้เหวอมากนัก การหักมุมที่พอเดาได้ ไม่ถึงกับหักจนคนดูอ้าปากค้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับง่ายดายจนดูถูกคนดู เลยทำให้ความรู้สึกตอนดูจบมันจืดๆไปนิด

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *