รีวิว the power of the dog

รีวิว the power of the dog netflix 

รีวิว the power of the dog 

 

 

 

 

เมื่อเห็นชื่อหนังเรื่องนี้ทาง Netflix อาจรู้สึกงง ๆ ว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหมาหรืออย่างไร หนังฝรั่ง netflix รัก      แต่เมื่อดูรายชื่อนักแสดงตัวเป้งอย่าง เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ (Benedict Cumberbatch)   ดูหนังฟรี และชื่อผู้กำกับหญิงชาวนิวซีแลนด์ เจน แคมเปียน (Jane Campion) ที่เคยสร้างชื่อไว้จากงานมาสเตอร์พีซ ‘The Piano’ (ซึ่งผู้เขียนประทับใจหนังเรื่องนี้มาก) ก็ไม่รีรอที่จะกดดู และก็ได้ค้นพบว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับหมา    ดูหนังออนไลน์       แต่เป็นเรื่องของ “คาวบอยบนหลังม้ากับการเยียวยาหัวใจตนเอง”

 

รีวิว the power of the dog  ที่มาของหนัง

 

รีวิว the power of the dog แคมเปียนเขียนบทดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกันของ โธมัส ซาเวจ (Thomas Savage) พื้นหลังคือปี 1925 ในฟาร์มปศุศัตว์ของรัฐมอนทานา ที่มีพี่ชาย ฟิล (คัมเบอร์แบตช์) และน้องชาย จอร์จ (เจสซี พลีมอนส์ – Jesse Plemons) สองพี่น้องที่มีนิสัยต่างกันอย่างสุดขั้ว ฟิลเป็นคนอารมณ์ร้อน  ชอบพูดจาถากถาง และวางท่าทีเป็นใหญ่อยู่ตลอดเวลา ขณะที่จอร์จเป็นคนพูดน้อย นิ่งเฉย สุภาพอ่อนโยน จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อจอร์จตัดสินใจแต่งงานกับโรส (เคียร์สเต็น ดันสต์ Kirsten Dunst) แม่ม่ายที่สามีฆ่าตัวตาย ที่เมื่อเธอย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฟิลหนังแนะนำ

 

 

เรื่องย่อ

 

เล่าเรื่องราวย้อนไปในปี 1925 รัฐมอนทานา สหรัฐอเมริกา Phil และ George สองพี่น้องตระกูล Burbank เป็นเจ้าของฟาร์มขนาดใหญ่ที่เป็นสมบัติสืบทอดมาจากตระกูล พวกเขาแม้ว่าจะเป็นพี่น้องแต่ก็แตกต่างกันเหลือเกิน Phil พี่ชายชอบอยู่กับกลุ่มคาวบอย ทำงานกลางแจ้ง หยาบคาย เย็นชา ดูถูกถากถางน้องชายอยู่บ่อยครั้ง ส่วน George น้องชายดูจะอ่อนโยนกว่า แต่งตัวสุภาพ มารยาทดี และแม้จะโดนถากถางอยู่เป็นประจำ ก็เหมือนกับว่าเขาทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมันนัก หนังแนะนำ

 

 

 

จนวันหนึ่งเมื่อ George แต่งงานกับ Rose แม่หม้ายลูกติด และย้ายมาอยู่ร่วมบ้านกับ Phil ความอึดอัดอันนำไปสู่ปัญหาทั้งปวงได้เริ่มต้นขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ Peter ลูกชายของ Rose ปิดเทอมฤดูร้อนและกลับมาอยู่ที่ฟาร์ม เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ชายแบบเดียวกับ Phil  the power of the dog สนุกไหม

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน พีต (โคดี สมิต-แม็กฟี – Kodi Smit-McPhee) ลูกชายคนเดียวของโรส หนุ่มวัยรุ่นขี้อาย รูปร่างผอมบาง และมีบุคลิกนุ่มนิ่ม ก็ย้ายเข้ามาพักชั่วคราวในช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม ฟิลที่เคยแดกดันพีตเรื่องที่เขาชอบทำงานประดิษฐ์และแต่งตัวเหมือนผู้หญิง ก็หงุดหงิดใจยิ่งกว่าเดิม แต่จากนั้นฟิลและพีตก็ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ฟิลและลูกน้องสอนพีตขี่ม้า จากที่เคยเป็นศัตรู ทั้งสองเริ่มเปิดใจกันมากขึ้น เล่าเรื่องราวความลับในอดีตของกันและกัน ทว่าความสนิทสนมของฟิลและพีตกลับสร้างความไม่พอใจให้กับโรสและจอร์จ

 

 

ความรู้สึกหลังดู

 

ด้วยความยาวสองชั่วโมงเต็ม ‘The Power of the Dog’ ไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยพล็อตที่หวือหวา แต่ดำเนินเรื่องด้วยพัฒนาการและความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสี่คน โทนหนังคือดราม่าเข้มข้นที่ดูนิ่ง เย็นยะเยือก แต่กลับมีพลังในทุกฉาก กระทั่งฉากไคลแม็กซ์ก็ยังนำเสนอออกมาแบบไม่คาดคั้น สอดคล้องกับบรรยากาศธรรมชาติแบบชนบทของหนังที่มีเพียงภูเขา ทุ่งหญ้า แม่น้ำ ม้า วัว และสุนัข ซึ่งเมื่อผ่านการกำกับภาพของอารี เวกเนอร์ (Ari Wegner) ก็กลายเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ ภาพสวยตราตรึงทุกฉาก ขณะเดียวกันก็ซ่อนความหมายแฝงไว้อยู่บ่อยครั้ง คล้ายกับ ‘The Piano’ ที่แคมเปียนใช้วิธีใส่สัญญะไว้ในการกำกับภาพเช่นกัน เมื่อบวกกับดนตรีประกอบของจอนนี กรีนวูด (มือกีตาร์จาก Radiohead) ที่เน้นการใช้เครื่องสายที่สร้างความระทึกใจและว้าวุ่นใจได้ไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือมาแบบน้อย ๆ ไม่โฉ่งฉ่าง แต่มาถูกจังหวะทุกครั้ง

 

 

 

ประเด็นในหนังมีการพูดถึงการยอมรับเพศทางเลือกในสมัยนั้น แต่ก็ไม่ได้ตีความออกมาเหมือน ‘Brokeback Mountain’ ของอั้งลี่ (Ang Lee) ที่มีตัวละครและฉากหลังคล้ายคลึงกัน แต่ ‘The Power of the Dog’ มีสารที่กว้างกว่าเรื่องรักร่วมเพศ แต่ยังพูดถึงการค้นหาและยอมรับตนเอง การไม่ปล่อยวางจากอดีต รวมไปถึงความหมายที่แท้จริงของบุรุษเพศ โดยสะท้อนออกมาให้ผู้ชมเห็นแบบลางเลือน หลายปมในเรื่อง (รวมทั้งปมสำคัญในตอนจบ) ไม่ถูกคลี่คลาย ปล่อยให้คนดูได้นำไปคิดต่อเอาเอง ทว่าก็ไม่ใช่หนังที่ดูยากหรือต้องอาศัยกระบวนการทางความคิดแต่อย่างใด the power of the dog สปอย

 

 

รีวิว the power of the dog netflix 

ตัวละคร

 

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า หนังทั้งเรื่องแทบจะเล่นกันอยู่สี่คน ซึ่งจะไม่แปลกใจหากทั้งคัมเบอร์แบตช์, พลีมอนส์, ดันสต์ และสมิต-แม็กฟี จะได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงแบบยกทีม คนที่น่าจับตามองที่สุดคือคัมเบอร์แบตช์ที่กลับมาท็อปฟอร์มด้านการแสดงอีกครั้งหลังจากที่เคยได้เข้าชิงออสการ์จาก ‘The Imitation Game’ (หลังจากที่เขาเข้าสู่จักรวาลมาร์เวล ก็ไม่ค่อยมีงานแบบนี้ให้เห็น) อีกคนที่น่าจับตามองหนีไม่พ้น เจน แคมเปียน ที่เคยอกหักจาก ‘The Piano’ ไปเมื่อ 28 ปีก่อน (ตอนนั้นเธอได้รางวัลบนภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม) ไม่แน่ว่าออสการ์อยากจะให้โอกาสเธออีกครั้งในการคว้ารางวัลออสการ์ผู้กำกับ (หญิง) ยอดเยี่ยม

 

 

 

ต้องยอมรับว่าการแสดงของ Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee ล้วนถ่ายทอดมิติอารมณ์ข้างในให้ดำเนินไปตามเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดไคลแมกซ์ช่วงท้าย

Benedict Cumberbatch ย้ายไปอยู่ที่มอนทานาราว 9 เดือน ใช้ชีวิตแบบเดียวกับ Phil Burbank เพื่อซึมซับตัวละครนี้เข้าไปในเนื้อหนัง ไม่ใช่แค่ฝึกม้วนยาสูบด้วยมือเดียว แต่อยู่ในคาแรกเตอร์ Phil Burbank ตลอดการถ่ายทำแม้ว่าจะไม่ได้เข้าฉากก็ตาม

 

 

รีวิว the power of the dog netflix 

รีวิว the power of the dog  จุดเด่น – จุดสังเกต

 

รีวิว the power of the dog  จุดเด่น

การแสดงที่ทรงพลังของนักแสดงทุกคน งานโปรดักชัน เครื่องแต่งกาย และการกำกับภาพที่งดงามประณีตทุกฉาก ประเด็นของหนังและการเลือกที่จะไม่เปิดเผยเนื้อหาทั้งหมด ทำให้เกิดการคิดต่อได้

 

 

 

จุดสังเกต

ด้วยการไม่เปิดเผยปมปริศนาบางอย่าง ก็ทำให้เกิดความไม่กระจ่างกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจตัวละครได้ไม่ลึก การดำเนินเรื่องที่นิ่งเอื่อย อาจทำให้หลายคนไม่ชอบ

 

 

Benedict Cumberbatch กับการสวมบทบาท Phil Burbank

 

 

Phil Burbank นับว่าเป็นตัวละครหลักของ The Power of the Dog เป็นแกนเรื่องที่มองจากภายนอกมีภาพลักษณ์ของพี่ใหญ่เจ้าของฟาร์มผู้ทรงอิทธิพล การทำงานของเขาล้วนแสดงอำนาจ บารมี เพื่อคุมเหล่าคาวบอยให้อยู่มือ ดังจะเห็นได้จากฉากที่เขาตอนวัวด้วยมือเปล่ามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง, ไม่ยอมขายหนังวัวแต่สุมเป็นกองใหญ่และเผาทิ้ง, การถากถางน้องชายตัวเองอยู่ตลอด ไร้มารยาท และยังคอยดูถูกภรรยาหม้ายของน้องชาย รวมถึงลูกชายที่ดูตุ้งติ้งจนเรียกได้ว่าเป็นการบูลลี่เด็กหนุ่มอย่างรุนแรง

 

 

 

ขณะเดียวกัน The Power of the Dog ก็พาเราลงลึกไปในพื้นที่ส่วนตัวของ Phil ที่หากพิจารณาโดยละเอียด เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยล เป็นคนมีการศึกษา แต่กลับกลายมีชีวิตในขั้วตรงข้าม รวมถึงป่าลึกลับที่เขามักใช้เวลาเพียงลำพังในนั้นนานๆ ซึ่งหลายฉากที่ส่วนตัวมากๆ เป็นการเปิดเผย ‘ข้างใน’ที่เขาเก็บซ่อนไว้มิดชิดตลอดมา และทำให้เราได้เห็นความเจ็บปวดที่ไม่เคยมีใครย่างกรายเข้าไปมาก่อน

 

สำหรับ Benedict Cumberbatch เขาย้ายไปอยู่ที่มอนทานาราว 9 เดือน ใช้ชีวิตแบบเดียวกับ Phil Burbank เพื่อซึมซับตัวละครนี้เข้าไปในเนื้อหนัง ไม่ใช่แค่ฝึกขี่ม้า

เลี้ยงสัตว์ มวนยาสูบด้วยมือเดียว แต่อยู่ในคาแรกเตอร์ Phil Burbank ตลอดการถ่ายทำแม้ว่าจะไม่ได้เข้าฉากก็ตาม นอกจากนี้เขายังไม่อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าเดิมที่เข้าฉากโดยไม่ซัก และฝึกเล่นแบนโจอย่างหนัก เพื่อให้เขากลายเป็น ‘Phil’ ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

 

 

The Power of the Dog ภาพยนตร์เข้าชิง 12 รางวัลออสการ์ ประจำปี 2022 หรือ The Academy Awards ครั้งที่ 94 นับเป็นออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ที่ร่วมงานกับ Jane Campion ผู้กำกับหญิงชาวนิวซีแลนด์ เจ้าของผลงาน The Piano (1993) นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee

The Power of the Dog

 

 

รีวิว the power of the dog netflix 

นักแสดง

 

 

Benedict Cumberbatch รับบท Phil พี่ชายวางอำนาจของ George เจ้าของฟาร์มในมอนทานา

Kirsten Dunst รับบท Rose หญิงหม้ายที่แต่งงานใหม่

Jesse Plemons รับบท George น้องชาย Phil ที่ต้องการได้รับการยอมรับทางสังคม

Kodi Smit-McPhee รับบท Peter เด็กหนุ่มเรียนวิทยาลัยแพทย์ ลูกชายอ้อนแอ้นบอบบางที่รักแม่  The Power of the Dog รีวิว

 

 

 

The Power of the Dog นอกจากภาพสวยระดับเทพ และงานโปรดักชันยิ่งใหญ่สะท้อนชีวิตคาวบอยยุค 20 ต้องยอมรับว่าการแสดงของ Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee ล้วนถ่ายทอดมิติอารมณ์ข้างในตัวละครไปตามเรื่องราว เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดไคลแมกซ์ช่วงท้ายที่คล้ายเป็นระเบิดเวลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *