รีวิว the lovebirds ​netflix

รีวิว the lovebirds ​netflix

รีวิว the lovebirds ​netflix

 

 

 

รีวิว​หนัง​จาก​Netflix (ฮาดี​ เเต่ไม่สุด)หนังฝรั่ง netflix รัก     

ความยาว​: 87 นาที     ดูหนังออนไลน์    

ประเภท​: คอเมดี้​/ โรเเมน​ติค    ดูหนังฟรี

ผู้ก​ำ​กับ​: ไมเคิล​ โชวาลเดอร์

ไมเคิล​ โชวาลเดอร์​ เป็น​ผู้กำกับ​หนังที่​หลายคน​อาจจะ​ไม่คุ้น​ชื่อ​ของเขา​เท่าไหร่​ เเต่หาก​พูดว่า​เขา​เป็นผู้กำกับ​ที่​ได้ทำงาน​ร่วมกับ​นักเเสด​ง​ตลก​อย่าง​คูเมล นันจานี่​ หลาย​คน​ก็อาจจะ​คุ้น​ชื่อมากกว่า​เดิมละครับ  หนังแนะนำ

 

เรื่อง​ย่อ: คู่รัก​คู่หนึ่งบังเอิญ​เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์​ฆาตกรรม​ พวกเขาจึงต้องเร่งหา​ตัวฆาตกร​เพื่อที่​จะ​ล้าง​มลทินใหืตนเอง​ให้เร็วที่สุด  หนังแนะนำ

 

 

The Lovebirds คู่รักที่ความสัมพันธ์ง่อนแง่นเต็มทีบังเอิญเข้าไปพัวพันกับเหตุฆาตกรรม จึงต้องเร่งหาตัวฆาตกรและล้างมลทินให้ตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่สถานการณ์กลับทั้งแรงและทั้งฮาไปเรื่อยๆ จนทั้งคู่ต้องคิดหาทางเอาตัวเองและความสัมพันธ์ให้รอดคืนนี้ไปได้

 

หนังตลกที่ตอนแรกตั้งใจนำมาลงฉายในโรง 3 เมษายน 2020 ของ Paramount Pictures แต่โดนพิษโควิดเล่นงานจนเปิดฉายตามกำหนดไม่ได้ ทาง Netflix ก็เลยช้อนซื้อมาเป็น Original ของตัวเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องดีมากเพราะบอกเลยว่าถ้าตีตั๋วเข้าไปในโรงนี่เสียดายตังกันแน่ๆ

 

รีวิว the lovebirds ​netflix เนื้อเรื่อง

 

รีวิว the lovebirds ​netflix จิบราน และ เลลานี่ คือคู่รักทั่วไปที่เริ่มต้นอย่างหวานซึ้งราวหนังโรแมนติก ก่อนที่อีกหลายปีถัดมาพวกเขาคือคู่โต้วาทีที่หาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวัน มีคนกล่าวว่าชีวิตรักจะมีจุด ๆ หนึ่งที่บ่งบอกทั้งคู่ว่าจะจบกันหรือจะไปต่อ และเวลาที่ว่าก็เกิดขึ้นในรถขณะที่ทั้งคู่กำลังจะไปงานปาร์ตี้เพื่อนของเลลานี่ บทสิ้นสุดการสนทนาได้เกิดขึ้นก่อนความเงียบทิ้งตัว

 

จิบราน: “ผมคิดว่าเรากำลังจะเลิกกัน”

เลลานี่: “ฉันคิดว่าเราเลิกกันมาสักพักแล้วล่ะ”

ทั้งคู่: “………”

 

ตุ๊บ! เสียงร่างของชายที่กำลังปั่นจักรยานคนหนึ่งลอยมากระแทกกระจกหน้ารถของทั้งคู่ เขารีบลุกขึ้นอย่างมึนงง แล้วร้องขอไม่ให้เลลานี่โทรแจ้งตำรวจก่อนจะรีบปั่นจักรยานหนีไป ท่ามกลางความงุนงงของอดีตคู่รักสด ๆ ร้อน ๆ ก็มีชายไว้หนวดที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาขอใช้รถทั้งคู่ไล่ตามคนปั่นจักรยานที่เป็นคนร้าย ราวหนังเปลี่ยนแนวจากโรแมนติกดราม่ากลายเป็นหนังตำรวจไล่ผู้ร้ายแบบฉับพลัน จิบรานช่วยดูจีพีเอสจนตำรวจไล่ทันจักรยาน ก่อนที่จะ ตู้ม! ตำรวจนิรนามเร่งความเร็วชนคนปั่นจักรยานอย่างจัง ก่อนจะถอยมาทับอีกครั้ง แล้ววิ่งไปข้างหน้าทับอีกหน ทำซ้ำ ๆ จนร่างชายปั่นจักรยานยับคากับพื้นถนน ในตอนนี้ จิบรานกับเลลานี่ต่างรู้แล้วว่า ชายหนวดคนนี้ไม่น่าจะใช่ตำรวจ และพวกเขาน่าจะโดนเก็บในฐานะพยานคดีฆาตกรรมเป็นรายต่อไป

 

แต่โชคยังดีที่มีเสียงรถตำรวจแล่นมาทำให้ชายหนวดนิรนามรีบหนีจากไปเสียก่อน กระนั้นความซวยใหม่ก็บังเกิดเมื่อมีคนผ่านมาเข้าใจว่า จิบรานและเลลานี่คือฆาตกรที่เพิ่งชนคนปั่นจักรยานตาแทน อารามตกใจทำให้จิบรานตัดสินใจลากเลลานี่หนีไปก่อนจะถูกตำรวจจับ

 

และนี่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางชั่วข้ามคืนของอดีตคู่รักคู่ใหม่ที่ต้องผจญภัยสืบคดีฆาตกรรมเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับการเป็นคนอื่นคนไกลหลังจากเพิ่งบอกเลิกกันไปแล้ว และยังคือบทสรุปในตัวอย่างหนังที่เปิดประเด็นจนเราสนใจว่า มันจะไม่ใช่หนังรักโรแมนติดคอเมดี้ธรรมดา ๆ แน่นอน

 

 

แล้วเมื่อดูไปถึงทีมงานก็ถึงได้พบว่า นี่คือโพรเจกต์หนังเรื่องถัดมาของทีมทำหนังรักสุดอบอุ่นอย่าง The Big Sick (2017) ที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำจากทุนสร้างน้อยนิด ทั้งยังได้เข้าไปชิงออสการ์สาขาบทหนังยอดเยี่ยมในปีนั้นด้วย และถึงไม่นับคุณความดีใด ๆ The Big Sick ก็เป็นหนังรักที่ดูจริงแล้วซาบซึ้งกินใจเรามากที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว ทว่าในครั้งนี้ ผกก. ไมเคิล โชวาลเทอร์ กับนักแสดงนำอย่าง คูเมล นานจิเอนี ได้หันมาทำหนังฟิกชันเต็มตัวอย่างที่ไม่ได้อิงชีวิตรักจริงของนานจิเอนีกับภรรยาอย่างเรื่องก่อนแล้ว

 

และผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นหนังบันเทิงที่ดูจริงน้อยลง คมคายยังมีอยู่ แต่สนุกกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้นมากจริง ๆ ไม่ว่าจะฉากคนร้ายขับรถทับคน ฉากสืบสวนจนไปพัวพันลัทธิประหลาด และฉากมัน ๆ อีกหลายฉากด้วย โดยความคมคายที่ว่ายังมีอยู่ก็คือการสะท้อนมุมมองความรักของคนที่รักกันและกำลังเลิกกันต้องทบทวนมองคนรักและตัวเองอีกครั้ง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผิดที่การกระทำ หรือผิดที่มุมมองความคิด นอกจากฉากทะเลาะในรถจนเลิกกัน ฉากที่ประทับใจอีกฉากคือตอนที่ทั้งคู่กำลังหลบหนีตำรวจ แล้วมีโอกาสได้คุยเปิดอกกันสั้น ๆ

 

นักแสดง

Michael Imperioliเป็น Vincent

Ana Padrãoเป็น Rosa

John Ventimigliaเป็น John Constantin

Joaquim de Almeidaเป็น Marco Correia

Drena De Niroเป็น Stella Clark

Rogério Samoraเป็น Vitor

Fernando Lopes เป็นผู้อำนวยการ

Nick Sandowเป็น Lenny

Marcello Urghegeเป็นโรมิโอ

John Freyเป็น Oscar

Cleia Almeidaเป็น Sandra

Dmitry Bogomolovเป็น Drago

Suzie Petersonเป็น Vera

Ivo Canelasเป็น Pedro

Filipe Vargasเป็น Miguel

 

รีวิว the lovebirds ​netflix

 

ความรู้สึกหลังดู

ออก​ตัว​ก่อน​ว่า​ส่วนตัว​ชอบ​ผลงาน​เก่า​ของผู้กำกับ​คนนี้อย่างThe Big Sick นะ​ เเต่​มาเรื่องนี้​อารมณ์​ในตอนดู​เเละความสนุก​ของหนัง​กลับ​ต่างกัน​สิ้นเชิง​เลย​ เนื้อเรื่องใน​หนัง​ควร​ที่จะ​ยาว​กว่านี้​มากๆ​ เหมือน​ตัวหนัง​โดน​ตัด​ให้​จบเร็ว​ยังไง​ก็ไม่รู้​ เเทน​ที่​เรา​จะรู้​ว่า​อะไร​คือ​ปริศนาที่​หนัง​หยอด​เอาไว้​ ในช่วงท้าย​ หนังกลับ​เลือกที่จะทิ้ง​ประเด็น​นี้​ให้ค้างคา​ไปต่อครับ​ ส่วนนักเเสดง​ไม่ใช่​ปัญหา​อะไร​ ทั้ง​คูเมล นันจานี่​เเละ​อิสซา​ เร ก็สามารถ​รับบท​เป็นคู่รักที่​อาจจะ​ดูน่ารำคา​ญ​ไปบ้าง​ เเต่​ค่อนข้าง​เป็นกันเอง​ เเละ​ทำให้​ดูเเล้ว​ไม่เครียด​กับสถานการณ์​ในเรื่องมาก​ นอกจากนี้​งานภาพ​เเละ​ประเด็นที่หยอดเข้ามาใน​เรื่อง​ก็ถือว่า​ทำได้น่าสนใจ​เลยทีเดียว​ เเละ​ก็สามารถ​ทำให้​สถานการณ์​ในเรื่องนั้น​ดูน่าสนใจเเลั​น่าติดตาม​มากขึ้น​ เเต่​เสีย​ดายที่ตัวหนัง​สั้น​ไปหน่อย​ทำให้​มีโอกาส​ใน​การ​เล่าเรื่อง​อะไร​ไม่ได้มาก​ รวมเเล้ว​ใคร​อยาก​ดูอะไร​คลายเครียด​ นี่​ก็​เป็นตัวเลือกที่ ดีเลยครับ​ เเต่​บางจุดก็​ไม่ค่อย​สุดเท่าไหร่​

 

 

ในช่วงแรกๆของหนังเรื่องนี้ ตัวหนังจะโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของคู่รักคู่นี้ ซึ่งก็จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ได้มีชีวิตคู่ที่เป็นไปได้สวยงามสักเท่าไรในตอนนั้น มีปัญหากันตลอดเนื่องจากความต่าง และสามารถหยิบประเด็นเล็กๆน้อยๆมาทะเลาะกันได้ไปหมด ซึ่งในตอนแรกนี้จะค่อนข้างชัดเจนและตรงไปตรงมาว่าเขาทั้งคู่นั้นแทบจะหมดหวังในความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็กินเวลาพอสมควรกว่าจะเข้าไปสู่ช่วงที่น่าตื่นเต้นอย่างคดีฆาตกรรม ที่ทั้งคู่บังเอิญเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเฉยๆ แน่นอนว่าครั้งแรกที่คุณได้ดูคุณก็อาจจะรู้สึกขัดใจกับทางเลือกที่จะหนีของตัวเอกไปไม่น้อย แต่ส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้ไปต่อ เพราะว่าพวกเขาได้ตัดสินใจสืบหาความจริง ซึ่งน่าสนใจมาก

 

 

พวกเขาค่อยๆสืบจนมารู้ว่าได้เข้าไปยุ่งเรื่องของผู้มีอิทธิพลเสียแล้ว ซึ่งการสืบหาความจริงของทั้งคู่ก็จะเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดป่วน ที่รับรองว่าเรียกเสียงฮา และยังมีปมปริศนาเกี่ยวกับการฆษตรกรรมซึ่งถือว่าเป็นจุดขายอีกจุดของเรื่องนี้เลยก็ได้ เพราะเฉลยได้ค่อนข้างสมเหตุสมผลในเรื่องความโหดของฆาตรกร แต่สำหรับตอนจบของเรื่องแน่นอนว่าหากหนังปูเรื่องมาแบบนี้ทั้งคู่พระนางก็ต้องกลับมารักกัน เพราะผ่านเรื่องราวต่างๆในระหว่างการสืบหาความจริงมาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้ หนังเน็ตฟลิกซ์ แนะนำ 2020 เรื่อง The Lovebirds เรื่องนี้ได้กลายมาเป้นที่น่าสนใจก็คือ เป็นหนังที่ดูง่ายแต่คุณจะได้ความบันเทิงแบบครบรสเลยทีเดียว

 

 

 

ตัวหนังตั้งใจทำเป็นแนวตลกดราม่าคู่รัก แต่กลับเรียกเสียงฮาได้ยากเสียเหลือเกิน ปกติหนังตลกหลักๆ ฮาไม่ฮาจะอยู่ที่มุกโดนไม่โดน หรือไม่ก็ตรงกับรสนิยมคนดู (ไทย) หรือไม่ แต่เรื่องนี้มันไม่ฮาเพราะแทบไม่ได้ปล่อยมุกอะไรเลยมากกว่า ทั้งเรื่องตั้งแต่เปิดตัวก็เต็มไปด้วยบทพูดทะเลาะกันของคู่รักต่างสีผิวในเรื่อง คือตั้งใจให้เห็นความแตกต่างนั่นแหละ เพราะในเรื่องมีการพูดถึงสีผิวในเชิงตลกล้อเลียนหลายครั้ง แต่บทพูดทะเลาะกันในเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะทั้งเรื่องส่วนตัวของทั้งคู่ เรื่องสัพเพเหระทั่วไปก็หยิบเอามาทะเลาะกัน จนน่าเบื่อเอามากๆ บอกเลยว่าไม่ได้ฮากริบ แต่แทบไม่ได้มีมุกตลกในบทพูดเลยมากกว่า ซึ่งมันกินเวลาของเรื่องไปเยอะมาก อย่างตอนแรกที่เปิดมาก็เถียงกันปาไปเกือบ 10 นาทีถึงเข้าเรื่องฆาตกรรม เรื่องจึงตั้งใจเน้นดราม่าชีวิตความสัมพันธ์ที่แยกทางกันสดๆ แต่กลับต้องมาร่วมทางแก้ไขปัญหากันอีกครั้ง และก็ตามสูตรว่าทั้งคู่ก็ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เคยน่าเบื่อเวลาทะเลากัน จนสุดท้ายก็แฮปปี้เอนดิ้งนั่นแหละ  the lovebirds full movie download

 

รีวิว the lovebirds ​netflix

รีวิว the lovebirds ​netflix สิ่งที่ดึงดูดใจ

รีวิว the lovebirds ​netflix สิ่งที่ช่วยดึงให้ดูจนจบได้มากกว่าจะเป็นตัวปมปริศนาฆาตกรรมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนขี่จักรยานที่ตายในตอนแรก ซึ่งเดายากจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตัวเรื่องพาตัวละครทั้งคู่ไปตามเบาะแสที่ได้มาทีละนิดหน่อย แต่ดูไปก็งงไปว่ากลุ่มคนที่ไปเจอแต่ละครั้งมาเกี่ยวกันได้ยังไง แถมยังมีตัวฆาตกรโหดไล่ตามเก็บพวกนี้อีก แต่หนังไม่ได้ออกแนวลุ้นอะไรมากเพราะนี่มันหนังตลก และเราก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางทำให้ตัวเอกทั้งสองคนตาย เรื่องจึงเดินไปแบบง่ายๆ ให้ตัวเอกทั้งคู่รอดตายจากสถานการณ์คับขันแบบตลกๆ (แต่ไม่ค่อยตลก) ก็ยังดีที่ตัวเรื่องหลังเฉลยแล้วเข้าท่าอยู่บ้างในคำตอบที่ว่าทำไมฆาตกรมันถึงดูโหดตั้งแต่แรกแบบนี้ (ขับรถทับคนไปมาหลายรอบ ยิงเด็กวัยรุ่นตายทั้งกลุ่ม) แต่ถ้าถามหาความสมเหตุผลของคดีในเรื่องตอบเลยไม่มีครับ

 

ตัวเอกทั้งคู่เล่นได้ไม่เชิงเข้าขากันดีนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดตาอะไร เพียงแต่รู้สึกว่าจงใจให้ทั้งคู่แตกต่างกันทุกอย่างจนเกินไปหน่อย เวลาที่เล่นฉากโรแมนติกก็เลยไม่รู้สึกสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าอิงตามชื่อเรื่องนี้ที่ตั้งมาเพื่อให้เข้ากับตัวเรื่อง “เลิฟเบิร์ด” ปกติก็เป็นนกแก้วตัวเล็กที่เลือกคู่แล้วก็อยู่กันไปจนวันตายไม่แยกจากกัน (ถ้าตัวไหนตายไปก่อนอีกตัวจะหงอยเหงามาก) แล้วก็เป็นคำแสลงที่หมายถึงคู่รักที่แสดงออกต่อกันเยอะแบบล้นๆ ไม่แคร์ใครด้วย แต่ในเรื่องนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักเท่าไหร่ครับ

 

นี่เป็นหนังตลกที่ไม่ตลกสักเท่าไหร่ ต้องบอกว่าดีแล้วที่ไม่ได้ลงโรงฉายให้คนด่าว่าเสียดายค่าตั๋วเอาเวลาไปนอนอยู่กับบ้านดีกว่า เพราะนี่นอนดูยังรู้สึกเสียดายเวลาอยู่เหมือนกันครับ ตัวหนังพยายามรวมเอาปัญหาชีวิตของคู่รักที่แตกต่างมายัดใส่ไว้ด้วยกัน ที่น่าปวดหัวคือบทพูดทะเลาะกันในเรื่องจุบจิบเยอะจนน่ารำคาญ มีความพยายามจะให้ดูตลก แต่กลับไม่ตลกเลย มีส่วนคดีฆาตกรรมของเรื่องเท่านั้นที่พอดึงให้คนดูสงสัยติดตามไปได้จนจบ   love birds movie watch online

 

 

 

บทพูดถกเถียงกันเยอะจนน่ารำคาญ และก็ไม่ตลกอะไรสักเท่าไหร่ด้วย

ดาราทั้งคู่ไม่ค่อยมีเสน่ห์น่าติดตาม

ไม่รู้สึกว่าเรื่องโรแมนติกสักเท่าไหร่แบบที่ตัวหนังอยากให้มีฉากตรงนี้   lovebird netflix removed

รีวิว the lovebirds ​netflix

 

 

สรุปภาพรวม

 

ตัวหนังพยายามรวมเอาปัญหาชีวิตของคู่รักที่แตกต่างมายัดใส่ไว้ด้วยกัน ที่น่าปวดหัวคือบทพูดทะเลาะกันในเรื่องจุบจิบเยอะจนน่ารำคาญ มีความพยายามจะให้ดูตลก แต่กลับไม่ตลกเลย มีส่วนคดีฆาตกรรมของเรื่องเท่านั้นที่พอดึงให้คนดูสงสัยติดตามไปได้จนจบ

ในขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของหนังอาจเหมือนหนังโรแมนติกคอเมดี้ที่ตัวละครพูดกันไฟแล่บราวกับเป็นนักเดี่ยวไมโครโฟนขึ้นโชว์พร้อมกัน ซึ่งมีอยู่ดาดดื่น แต่ในเบื้องลึกมันก็ซ่อนความแยบยล ชวนให้คิดถึงเรื่องราวความรักและการอยู่ด้วยกันของคู่รักแบบในชีวิตจริง ไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเลยล่ะ   the lovebirds 2

 

 

จุดเด่น

หนังดูง่าย เน้นความบันเทิงที่ไม่เครียดจนเกินไป ทั้งยังมีข้อคิดดี ๆ แฝงอยู่เป็นระยะ ๆ ด้วย คู่นักแสดงอย่าง คูเมล นานจิอานี กับ ไอซ์ซา เร ถึงรูปลักษณ์ดูไม่น่าเข้ากันแต่พอเล่นไปเคมีเข้ากันดีมาก

จุดสังเกต

มุกเป็นสไตล์คำพูดแบบคอเมเดี้ยนฝรั่ง ใครไม่ถนัดแนวนี้อาจรู้สึกว่ามันพูดกันเยอะไป และอีกอย่างก็คือการที่พลอตเดาได้ไม่ยากเย็นอะไรเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *