รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

the gray man (ล่องหนฆ่า) คือภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องล่าสุดของสองผู้กำกับ Anthony และ Joe Russo ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Captain America: The Winter Soldier (2014) ที่นำซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจมหาชนมาปรุงแต่งด้วยรสชาติของภาพยนตร์สายลับ หักเหลี่ยม เฉือนคม โดยภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกันของ Mark Greaney และได้สองนักแสดงระดับแถวหน้าอย่าง Ryan Gosling และ Chris Evans มาร่วมประชันบทบาท

 

หนังบู๊

 

The Gray Man ว่าด้วยเรื่องราวของ Court Gentry (Ryan Gosling) โค้ดเนม SIX มือสังหารมากฝีมือจากโครงการเซียล่าของซีไอเอ ได้รับภารกิจลับสุดยอดให้มาลอบสังหารอาชญากรตัวเป้ง แต่เมื่อภารกิจสิ้นสุด SIX กลับค้นพบข้อมูลลับที่เต็มไปด้วยความดำมืดของหัวหน้าซีไอเอเสียอย่างนั้น SIX จึงต้องหลบหนีจากการตามล่าของ Lloyd Hansen (Chris Evans) ทหารรับจ้างที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อปิดปากเขา แม้จะต้องแลกกับชีวิตของผู้บริสุทธิ์ก็ตาม เรื่องราวการเผชิญหน้าระหว่างสองมือสังหารมากฝีมือจึงเริ่มต้นขึ้น

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า) เรื่องย่อ

 

 

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า) ภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดตามเรื่องราวของ Six (Ryan Gosling) นักฆ่าล่องหนที่ทำงานให้กับ CIA เขาเป็นอดีตนักโทษที่ถูกใช้ให้ทำงานเพื่อแลกกับอิสระภาพ เขาทำงานให้กับหน่วยงานมาเป็นเวลานาน จนในวันหนึ่ง เขาได้รับภารกิจให้สังหารชายปริศนาคนหนึ่ง และก่อนที่เขาจะสังหาร ชายคนนั้นก็ได้บอกความลับที่อยู่เบื้องหลังของหน่วยงานเขา พร้อมกับให้หลักฐานสำคัญไว้กับเขา ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาถูกตั้งค่าหัว และถูกผู้มีอำนาจส่งนักฆ่าจากทั่วโลกเพื่อไล่ตามเขา

 

หนังบู๊

โดยนักฆ่าเหล่านั้น นำทีมโดย Lloyd Hansen (Chris Evans) นักฆ่ารับจ้างสุดโรคจิตที่สนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ ต่อให้มีคนบริสุทธิ์โดนลูกหลงเขาก็ไม่สน สุดท้ายแล้ว Six จะสามารถหนีรอดจากการไล่ล่าครั้งนี้ได้หรือไม่ ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The Gray Man (ล่องหนฆ่า) ดูได้แล้ววันนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix รีวิวหนัง       

 

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

นักแสดง

 

Ryan Gosling และ Chris Evans นับว่าเป็นสองนักแสดงที่ต่างเคยสวมบทบาทเป็นตัวละครสำคัญที่เป็นที่จดจำของผู้ชมมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง Ryan Gosling กับภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าเรื่อง The Notebook (2004), La La Land (2016) หรือภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์อย่าง Blade Runner 2049 (2017) ส่วน Chris Evans ก็นับว่าเป็นนักแสดงที่ผู้ชมทั่วโลกจดจำได้เป็นอย่างดีในบทบาทของ Captain America แห่งจักรวาล MCU ดังนั้นแล้วการได้เห็นชื่อของทั้งคู่ที่จะมาดวลปืนชนหมัดกันใน The Gray Man จึงทำให้เราตัดสินใจกดเข้าไปรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่ลังเล   ดูหนังออนไลน์ 

 

 

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า)

 

 

ด้านการแสดง

 

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยนักแสดงมากฝีมือ แต่กลายเป็นว่ามันแอบรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย พระเอกอย่าง Ryan Gosling ก็แสดงได้ดีนะ ฉากแอ็คชั่นก็เท่ดี แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าตัวละครมันขาดเสน่ห์ไปนิดนึง ไม่ได้น่าจดจำมากเท่าไหร่ ส่วน Chris Evans ที่รับบทเป็นวายร้าย ผมก็มองว่ามันยังไม่ถึง เขาไม่ได้ดูร้ายหรือโรคจิตจนน่ากลัวอย่างที่คาดไว้ ส่วนตัวผมมองว่าตอนเขาแสดงเป็นตัวร้ายใน Knives Out (2019) นั้นออกมาดีกว่าเรื่องนี้ ตอนนั้นดูมีเสน่มากกว่าและน่าจดจำมากกว่า the gray man รีวิว

 

 

 

เรื่องนี้แค่ดูเป็นคนบ้าๆ แต่ไม่ได้ดูน่าเกรงขามหรือน่ากลัวเท่าไหร่ มาต่อกันที่คนที่ผมชอบบ้าง นั่นคือ Ana de Armas เรื่องนี้เธอได้บู๊แบบจัดเต็มเลย หลังจากที่เธอเคยโชว์ฉากแอ็คชั่นมาแล้วใน No Time to Die (2021) มาเรื่องนี้เธอมีบทเยอะขึ้นมาก และก็แสดงได้ดีด้วย สวยเหมือนเดิม ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็แสดงได้ดีกันทุกคน ในด้านการแสดงไม่มีอะไรจะติมากนัก โดยรวมคือทุกคนทำได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป        ดูหนังฟรี 

 

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า) งานภาพและการโปรดักชั่น

 

รีวิว  the gray man (ล่องหนฆ่า) ส่วนนี้บอกเลยว่าจัดเต็มจริงๆ มุมกล้องต่างๆ ดีมาก ค่อนข้างสร้างสรรค์พอสมควรเลย ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้ดี แม้ว่าจะเวอร์ไปมากก็ตาม ถ้าถามว่าเวอร์ขนาดไหน ก็คงประมาณหนังตระกูล Fast เลย อย่างฉากบนเครื่องบินนี่ผมไม่ซื้อจริงๆ เก่งขนาดนี้ไม่น่าใช่แค่นักฆ่าแล้ว ควรไปเป็นซูเปอร์ฮีโร่มากกว่า ฮ่าๆๆ แต่ก็เข้าใจได้ เน้นความันส์และบันเทิงล้วนๆ งานภาพสวยพอตัว แม้จะมีบางฉากที่ CGI ดูลอยๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมคือยอดเยี่ยมแล้ว ฉากที่ชอบมากๆ คือฉากตอนต้นเรื่องที่สู้กันตรงที่จุุดพลุ กับฉากที่สู้กันกลางเมือง 2 ฉากนี้เดือดมากจริงๆ

 

 

และด้วยเรื่องนี้เป็นหนังทุนสูง โปรดักชั่นจึงจัดให้เราแบบเต็มเปี่ยม เล่นใหญ่สุดๆ ซึ่งถ้าใครชอบแอ็คชั่นเน้นเอามันส์ล้วนๆ น่าจะหลงรักหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สรุปโดยรวมคือ เป็นหนังแอ็คชั่นเวอร์ๆ ที่เน้นความสะใจ ความบันเทิง ดูแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาเป็นว่าไปลองดูกันเองดีกว่า the gray man 2022 พากย์ ไทย

 

 

ความรู้สึกหลังดู

 

 

บอกก่อนเลยว่า ก่อนได้ดูผมตั้งความหวังกับเรื่องนี้ไว้พอสมควร ตั้งความหวังตั้งแต่เห็นชื่อผู้กำกับ และเหล่านักแสดงในเรื่องที่มีแต่คนดังๆ ทั้งนั้น แต่เมื่อได้ดูจริงๆ กลับกลายเป็นว่าแอบผิดหวังเล็กน้อย เอาหล่ะ มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า อย่างแรกเลยคือเรื่องบท บทของเรื่องนี้ธรรมดามาก ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน พล็อตหลักคือไล่ล่ากันทั้งเรื่อง เน้นแอ็คชั่นหนักๆ และค่อยๆ เฉลยความจริงออกมาทีละนิดในระหว่างทาง และด้วยความที่บทมันไม่มีอะไรมาก เลยรู้สึกว่าไม่ได้น่าติดตามอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อนะครับ ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แค่หนังดูนักแสดงและฉากแอ็คชั่นก็คุ้มแล้ว ส่วนด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่าทำได้ดีอยู่ระดับหนึ่ง เล่าเรื่องไว กระชับ เข้าใจง่าย เอาง่ายๆ คือสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เลย คอหนังแอ็คชั่นน่าจะหลงรักเรื่องนี้ได้ไม่ยาก the gray man pantip

 

จุดเด่น

 

จุดที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของภาพยนตร์จริงๆ เห็นจะเป็นการแสดงของ Ryan Gosling และ Chris Evans ที่ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะ Chris Evans กับบทบาทของ Lloyd ทหารรับจ้างจอมโหดที่มาพร้อมกับสีหน้า แววตา และรอยยิ้มที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความอันตราย และไม่น่าไว้วางใจของตัวละครตัวนี้อย่างแจ่มชัด

 

the gray man เรื่องย่อ

 

ขณะที่ Ryan Gosling กับบทบาทของสายลับฝีมือฉกาจอย่าง SIX ก็คงจะไม่มีคำไหนที่นิยามตัวละครนี้ได้ไปดีกว่าคำว่า ‘เท่’ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม บทพูดกวนๆ ฉากหลบหนีจากดงกระสุนปืน ไปจนถึงการดวลหมัดกับ Chris Evans ในฉากสุดท้าย เขาก็นำเสนอบทบาทนี้ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ไม่แพ้ Chris Evans จริงๆ

 

 

จุดด้อย

 

จุดด้อยสำคัญที่ทำให้กราฟความสนุกของภาพยนตร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเรื่องของการปูความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครภายในเรื่องที่ดูเบาบางไปสักหน่อย ทั้ง Claire (Julia Butters) เด็กสาวที่ SIX เคยได้รับภารกิจคุ้มครองเธอมาก่อน แต่ภาพยนตร์กลับเลือกที่จะเล่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้เราทำความรู้จักแค่พอสังเขปเท่านั้น

 

 

รวมถึง Dani Miranda (Ana de Armas) ที่บทบาทของเธอดูจะยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ว่าปมปัญหาของเธอคืออะไร หรือมีจุดยืนแบบไหน ทั้งหมดนี้มันจึงทำให้การคลี่คลายปมปัญหาในช่วงท้ายของเรื่องยังดูคลุมเครือ และไม่สามารถทำให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น

 

ชื่อเรื่อง : The Gray Man (ล่องหนฆ่า)

แนว : ระทึกขวัญ, แอ็คชั่น, สายลับ

ความยาว : 122 นาที

ระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทย

ช่องทางการรับชม : Netflix

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *