รีวิว Outside the Wire

รีวิว Outside the Wire

รีวิว Outside the Wire

 

สำหรับคอหนังแอ็คชันที่ชอบคิวบู๊มันส์ ๆ เป๊ะ ๆ เราขอแนะนำให้หนัง ภาพยนตร์ Outside the Wire สมรภูมินอกลวดหนาม โดยด่วน เพราะคุณจะได้เจอทั้งฉากแอ็คชันสุดมันส์ ดาราระดับแม่เหล็ก และการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างตัวละครที่จะทำให้คุณต้องเอาใจช่วย

 

หนัง ภาพยนตร์ Outside the Wire สมรภูมินอกลวดหนาม เป็นเรื่องราวของฮาร์ป นักบินโดรนกองทัพสหรัฐที่ขัดคำสั่งเจ้านาย ทำให้ทหารในสมรภูมิต้องเสียชีวิต เขาถูกส่งไปทำงานกับผู้กองลีโอ ผู้ซึ่งฮาร์ปรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขาน้อยมาก แต่รู้แค่ว่าผู้บังคับการในกองทัพบางคนไม่ชอบเขา ฮาร์พถึงกับตะลึงเมื่อรู้ภายหลังว่าลีโอไม่ใช่คน แต่เป็นแอนดรอยด์ที่เหมือนคนมากจนเขาบอกความแตกต่างไม่ได้ และการมีอยู่ของลีโอก็เป็นความลับ ทั้งสองปฏิบัติการในชายแดนรัสเซีย ยูเครน เพื่อชิงรหัสยิงขีปนาวุธจากผู้ก่อการร้ายยูเครนสุดโหด วิคเตอร์ โควาล ด้วยความช่วยเหลือจากสายข่าวที่พวกเขาต้องซื้อใจ  แต่แล้ว ฮาร์พก็ได้มารู้ภายหลังว่าลีโอมีแผนการบางอย่างที่น่ากลัวมาก

 

รีวิว Outside the Wire

 

 

รีวิว Outside the Wire เรื่องย่อ

ฮาร์ป อดีตทหารบังคับโดรนสังหาร ตัดสินใจขัดคำสั่งยิงจรวดช่วยหน่วยรบ 38 นายที่อยู่กลางดงศัตรูโดยทำการสละชีวิตทหาร 2 นายไปพร้อมกับทหารฝั่งศัตรู และทำให้เขาถูกสั่งย้ายไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ ทหารสุดแปลกที่ไม่มีใครเอา ผู้จะลากฮาร์ปไปกลางสมรภูมิด้วยภารกิจชวนฉงน และการเปิดเผยตัวตนว่าเขาเองเป็นแอนดรอยด์ไม่ใช่คน ซึ่งฮาร์ปจะถูกบังคับให้เลือกทางแยกที่ยากลำบากตลอดการเดินทางครั้งนี้

 

เป็นหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ทรงมาทางแอ็กชันไซไฟจ๋า แต่ความน่าสนใจคงเป็นการกลับมารับบท ซูเปอร์ฮิวแมน ของ แอนโธนี แมกคี ที่ติดตาแฟน ๆ มาจากบท แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน จากหนังมาร์เวล งานนี้จึงต้องมาลุ้นกันว่าถ้าไม่ใช่หนังตระกูลมาร์เวลแล้วเขาจะยังรับบทแนวซูเปอร์ฮีโรรอดหรือไม่ เพราะกับบทบาทแนวไซบอร์กจากซีรีส์ Altered Carbon ซีซัน 2 ทางเน็ตฟลิกซ์ของเขา เรียกว่าล้มเหลวในด้านเสน่ห์ความน่าติดตามพอสมควรเลย

 

ส่วนด้านทีมงานเบื้องหลังงานสร้างก็ได้ผู้กำกับ มิคาเอล ฮาฟสตรอม จากสวีเดนที่เคยมีผลงานพอสร้างชื่ออย่างหนังสยองขวัญทั้ง 1408 (2007) และ The Rite (2011) โดยในแนวแอ็กชันก็มีผลงานที่น่าจดจำคือ Escape Plan (2013) ที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ปะทะ อาร์โนลด์ ชวาร์ซเน็กเกอร์ ดูจากผลงานถือว่าเชื่อมือการเล่าเรื่องได้ระดับหนึ่งเลยล่ะ แต่จะหวังบู๊ล้างผลาญเลยน่าจะยากนิดหนึ่ง

 

ซึ่งก็เป็นดังนั้น เพราะเมื่อประจวบเหมาะกับการได้มือเขียนบทอย่าง ร็อบ เยสคอมบ์ ที่เคยผ่านงานเขียนบทให้เกมเนื้อเรื่องน้ำดีอย่าง The Division ที่ผสมแอ็กชัน โรคระบาดกับการเมืองได้เข้มข้นมาเขียนบทด้วยแล้ว ก็ยิ่งส่งเสริมกันดีในทางบทชวนคิดมากกว่าชวนลุ้นระทึกนันสต็อปแน่นอน

รีวิวหนัง   

จริง ๆ การที่ร็อบได้จับมือกับ โรแวน เอเธล ที่มีผลงานแนวแอ็กชันไซไฟเกรดบีมาร่วมเขียนบท และพิจารณาจากที่ร็อบเคยเขียนบทเกมไซไฟเอามันอย่าง Crysis มาแล้ว มันก็มีทั้งทางเลือกแบบเกรดบีเอามันไม่สนใจโครงเรื่องแบบเอาตัวรอดง่าย ๆ ไปเลยได้เช่นกัน แต่เมื่อหนังมันออกมาทางที่ไซไฟปรัชญาที่ท้าทายตัวเองของทั้งคู่แทน เราก็ชื่นชมในความกล้าตรงนี้เช่นกัน

 

หนังเล่าเรื่องของทหารอ่อนประสบการณ์ในสนามรบจริงอย่าง ฮาร์ป (แดมสัน ไอดริส) ที่ตัดสินใจฆ่าคนผ่านจอและปุ่มคอนโทรลในมือไม่ต่างจากการเล่นเกม ทำให้เขาตัดสินใจสละชีวิตทหารฝั่งตัวเองเพื่อผลลัพธ์ได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร การโดนลงโทษให้ไปร่วมภารกิจกับ ผู้กองลีโอ (แมกคี) ทหารสุดเก๋าก็ราวกับจะให้อารมณ์หนังสไตล์คู่หูชัดเจน ทว่าเมื่อ ฮาร์ปถามลีโอว่า นี่มันเหมือนเราเป็นคู่หูกันเลย? เขาก็โดนลีโอตะคอกหงายตึงว่า ไม่ แกเป็นลูกน้องฉัน เท่านั้น ทำให้ผู้ชมเริ่มต้องปรับตัวนิด ๆ ว่า นี่ไม่ใช่งานดูเพลิน ๆ เอามันแบบ Bad Boys แน่นอนแล้วล่ะ

 

ความยากลำบากในการดูหนังเรื่องนี้มาจากตรงนี้เอง เราต้องจับสัญญาณระหว่างบทสนทนาของ 2 คู่หู ที่ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ไปตลอดเรื่อง โดยความปวดขมองคือ ตัวละครแอนดรอยด์อย่างผู้กองลีโอ มีพฤติกรรมที่ชวนสับสนต่อกฎ 3 ข้อของจักรกลที่มักสำคัญในหนังแนวไซไฟหุ่นยนต์ทุกเรื่อง ซึ่งเราไม่รู้ได้เลยว่า ฮาร์ป หรือตัวแทนผู้ชม ควรตอบรับกับการสอนหรือการหลอกใช้ของ ลีโออย่างไร

รีวิว Outside the Wire

นอกจากนั้นสถานการณ์ทางการเมืองแถบบอลข่านที่เป็นฉากหลักของเรื่อง ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มเผด็จการทหาร กลุ่มกบฏ ชาวบ้านยูเครน รัฐบาลรัสเซีย และรัฐบาลสหรัฐ ที่คลุ้งอยู่เป็นฉากหลังทั้งเรื่องนั้น ก็แอบต้องคิดตามอยู่ไม่น้อยพอแล้ว

 

เมื่อทุกองค์ประกอบทั้งการเมืองหลายฝักฝ่าย ปรัชญาเรื่องสงคราม ความเป็นมนุษย์ที่แย้งกับหน้าที่ทหาร ปรัชญาไซไฟเกี่ยวกับกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ อารมณ์ที่ขัดแย้งกับเหตุผล ถูกเอามาเสนอผสมกันมันจึงกลายเป็น โกโก้ครันช์ รสรวม ๆ ที่ถ้าไม่ถูกปาก ก็เทชามคว่ำทิ้งถังได้เลย

 ดูหนัง

สำหรับส่วนตัวมองว่าจุดแข็งของเรื่องก็อยู่ตรงเนื้อหาที่ว่ามานี่ล่ะ แต่ด้วยการเล่าให้ขมวดอยู่ในเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่ถือว่ามากอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเกลี่ยทุกอย่างให้กลมกล่อม จึงกลายเป็นปัญหาที่ผู้ชมต้องคิดตามหนัก ๆ และมองข้ามรูรั่วของความสมจริงต่าง ๆ ไป เช่นเรื่องทำไมให้แอนดรอยด์มาเป็นระดับผู้บังคับบัญชามนุษย์ได้? ถึงจะเพื่อเอามาสร้างปัญหาย้อนแย้งว่าใครสั่งใครในเรื่อง แต่โดยหลักการมันก็ไม่ควรต้องมีปัญหานี้แต่แรกแล้วไหมในทางปฏิบัติจริง

 

เมื่อมองรวมไปถึงโพรดักชันที่อยู่ในระดับซีจีหนังเกรดบีฮอลลีวูด และการเล่าฉากบู๊ที่ไม่ค่อยสะใจนัก กึ่ม ๆ จะดีแต่ก็ต้องแบกด้านปรัชญาดราม่าด้วย เลยกลายเป็นฉากบู๊ทื่อลง จึงน่าจะพูดแทนผู้ชมส่วนใหญ่ได้เลยว่า น่าจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้เท่าใดนัก อาจอยู่ในเกณฑ์พอดูได้ แต่ไม่ดูจะทรมานน้อยกว่า แต่ถ้าคุณชอบแนวปรัชญาไซไฟสงคราม ตั้งคำถามต่าง ๆ ก็ดูเถอะ หนังก็อยุ่ในกลุ่มกลาง ๆ ไม่ได้แย่เช่นกันสำหรับแนวนี้

เว็บดูหนัง   

เคมีนักแสดงที่เข้ากัน และบทพูดชวนคิด

ครึ่งแรกของหนัง ภาพยนตร์ Outside the Wire ดำเนินไปอย่างลื่นไหล และมีมุมมองคล้ายเกมอยู่บ้าง ผู้ชมจะรู้สึกว่าเรากำลังควบคุมตัวละครในเกมที่เดินไปคุยกับ NPC เพื่อทำภารกิจบางอย่างทางการทหารที่เป็นความลับ  เคมีของนักแสดงทั้งสอง คือ แอนโธนี แม็คกี (เจ้าของบทฟอลคอน ในแฟรนไชส์กัปตันอเมริกา และหนังมาร์เวลเรื่องอื่น) และแดมสัน ไอดริส เข้าขากันได้อย่างดี  มีฉากปะทะฝีปากอยู่บ้างประปราย

 

ซึ่งจากที่กล่าวมานี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความสมจริงในการแสดงอารมณ์ของแอนดรอยด์อย่างลีโอ ซึ่งทำให้ฮาร์ปสับสนอยู่บ้างเหมือนกันว่าเขาควรเชื่อใจเพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่มนุษย์นี้หรือไม่ บทพูดบางตอนแฝงแนวคิดปรัชญาให้เราครุ่นคิดว่า แอนดรอยด์สามารถมีความรู้สึกและการตัดสินใจเหมือนมนุษย์ได้หรือไม่ และถ้าแอนดรอยด์ตัดสินใจผิด ใครจะต้องรับผิดชอบ

 

รีวิว Outside the Wire

 

พล็อตหักเหลี่ยมเฉือนคม

ในครึ่งหลังของหนัง เราจะต้องเอาใจช่วยฮาร์ปในการเอาชนะแผนการของคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าเขาทุกอย่าง ทั้งด้านไหวพริบและพละกำลัง จนทำให้หนังเข้าสู่โหมดภารกิจอย่างสมบูรณ์ อันที่จริงก็มีความไม่สมจริงอยู่บ้าง เพราะดูเหมือนว่าฮาร์ปจะด้อยกว่าลีโอในทุก ๆ ด้าน แต่หนังก็ทำให้เขามีตัวช่วยด้วยการโยนผู้บังคับการและเพื่อนนักบินโดรนเข้ามา ทำให้ฮาร์ปพอจะมีแววสูสีกับลีโอได้บ้าง

 

 

นอกจากนั้นแล้ว หนัง ภาพยนตร์ Outside the Wire ยังแฝงความเป็นการเมืองอยู่ในตัว ทั้งเรื่องสีผิว เชื้อชาติ (ตัวละครเอกทั้งสองเป็นคนผิวดำ) และตั้งคำถามกับความเป็นพี่ใหญ่ของอเมริกา ที่แผ่อิทธิพลออกไปทั่วโลก ทั้งในด้านวัฒนธรรมและการทหาร จนดูเหมือนว่า อเมริกาไม่เคยแคร์เลยว่าตนเองจะทำความเสียหายข้างเคียงจากสงครามมากเพียงใด มีคนนับแสนทรมานจากสงครามที่อเมริกาก่อในนามของความสงบเรียบร้อย ซึ่งหนังก็ชวนให้คิดจากมุมมองของลีโอ จนเราอาจจะรู้สึกร่วมกับเขาได้อยู่เหมือนกัน กล่าวได้ว่า หนังไม่ได้ทำให้มีคนดีหรือคนร้ายแบบขาวกับดำอย่างที่หนังแอ็คชันทั่ว ๆ ไปมักทำกัน

 

 เว็บหนัง 

 

สรุป

 

หนังตอบโจทย์คอแอ็กชั่นหนังสงครามได้แน่ๆ หนังโชว์ฉากรบในอนาคตในแบบเรียลๆ ต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะพลิกเป็นอีกแนว แต่สิ่งที่หนังพยายามเป็นมากกว่านั้นคือการพูดถึงล้วงลึกถึงความคิดของชีวะจักรกลประดิษฐ์ของตัวเอกในเรื่อง ซึ่งทำออกมาได้ดีเลย แล้วนักแสดงอย่าง Anthony Mackie ก็ถนัดกับบทแบบนี้มาก ปัญหากลับกลายเป็นตัวเอกร่วมอีกคนที่เป็นดาราโนเนม แต่ถูกดันขึ้นมาคู่กับเขา โดยบทที่เขียนออกมาพยายามให้เขาเป็นอเมริกันฮีโร่แบบไม่น่าเชื่อถือ จนฉุดให้ส่วนของ Anthony ดูอ่อนยวบตามไปด้วยอย่างน่าเสียดายจริงๆ

 

 

 

 

จุดเด่น

รายละเอียดของบทที่ตั้งคำถามปรัชญาหลายอย่างต่อผู้ชม ค่อนข้างลึกและจริงจัง ถ้าชอบคิดชอบถกก็สนุกดี การแสดงของคู่นำถือว่าประคองได้ การสร้างภูมิหลังตัวละครน่าสนใจดี

 

จุดสังเกต

โพรดักชันไม่ค่อยดี ซีจีธรรมดามาก การเล่าเรื่องไม่สุดเท่าไหร่ ยิ่งฉากแอ็กชันยิ่งไม่ช่วยกระตุ้นผู้ชมให้อยากติดตามเนื้อหาดราม่าต่อเท่าไร หนังนานเกินไป แถมบทสรุปก็ไม่แรงพอให้คนดูอิ่มอารมณ์

 

อาจกล่าวได้ว่าหนัง ภาพยนตร์ Outside the Wire สมรภูมินอกลวดหนาม เป็นหนังที่ครบเครื่องและกลมกล่อมเรื่องหนึ่ง เราสามารถดูหนังเพื่อความมันส์จากบทบู๊ที่ลื่นไหล โดยเฉพาะคิวบู๊ของลีโอซึ่งเป็นแอนดรอยด์และมีการคำนวณการต่อสู้ต่าง ๆ อย่างชาญฉลาด ส่วนในแง่ของพล็อต ก็มีความซับซ้อนและทำให้ผู้ชมคิดตาม อีกทั้งยังมีประเด็นลึกๆหลายเรื่องที่สามารถเก็บไปคิดต่อได้หลังหนังจบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *