รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง

 

 

 

 

Manifest (แบบไม่สปอยล์) เป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ดราม่า แฟนตาซี หนังฝรั่ง netflix รัก       ที่การันตีความสนุกกับ TOP 1 บน Netflix Thailand มาแล้ว กับเรื่องราวเครื่องบินพิศวงที่มีผู้โดยสารเกือบ 200 คน     ดูหนังออนไลน์     เพียงแค่นั่งเครื่องบินข้ามประเทศจากจาเมกาถึงอเมริกาเพียงไม่กี่วัน   ดูหนังฟรี  พอเครื่องบินลงจอดถึงที่หมายกลับพบว่าผ่านไปแล้ว 5 ปี

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง เรื่องย่อ

 

 

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง
รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง เที่ยวบิน 828 ได้ขึ้นบินในปี 2013 และเจอพายุรุนแรง ทว่าเมื่อเครื่องลงจอดสำเร็จพวกเขากลับพบว่าเวลาได้ผ่านไปแล้วถึง 5 ปีครึ่ง และคนทั้งโลกเคยเชื่อว่าพวกเขาตายไปกับการสูญหายของเครื่องบินหมดแล้ว เรื่องราวชีวิตของผู้โดยสารและลูกเรือแต่ละคนที่ต้องพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่หายไปนำมาซึ่งเรื่องราวบาดหัวใจ ก่อนที่เรื่องเหนือธรรมชาติจะเกิดกับพวกเขาตามมาและภัยร้ายแรงที่เป็นปริศนาเกินคาดคิดก็เช่นกัน หนังแนะนำ

 

 

เนื้อเรื่อง

 

ในปี 2013 ครอบครัวสโตนไปทริปพักร้อนที่ประเทศจาเมกา หลังจากการพักร้อนเสร็จนั้นครอบครัวสโตนกำลังจะกลับนิวยอร์ก แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาต้องนั่งแยกเครื่องบินคนละเที่ยวบิน โดยเที่ยวแรกมีเกรซ(ภรรยาของเบน) โอลีฟ(ลูกสาวของเบน) พ่อและแม่ของเบน สโตน ซึ่งได้ขึ้นเครื่องกลับอเมริกาก่อน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งได้แก่ เบน มิเคล่า(น้องสาวของเบน) และแคล(ลูกชายของเบน) ตัดสินใจขึ้นเครื่องบินเที่ยว 828 ของสายการบินมอนเตโกตามมาทีหลัง ขณะที่นั่งเครื่องบินลำนั้นก็เกิดเผชิญกับเหตุการณ์ตกหลุมอากาศรุนแรง พอเครื่องบินลงจอดก็พบว่าพวกเขาอยู่ปี 2018 แต่ผู้โดยสารกลับรู้สึกว่านั่งบนเครื่องบินเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

 

เมื่อเครื่องบินลงจอดที่อเมริกา ครอบครัวสโตนได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เบนกลับไปหาเกรซและลูกสาวโอลีฟ แต่ก็พบว่าเวลาผ่านไป 5 ปี ทำให้เกรซได้รักกับแดนนี่ เมื่อเกรซและโอลีฟรู้ว่าครอบครัวของเขากลับมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งดีใจที่ครอบครัวได้กลับมา ด้านมิเคล่าที่กำลังจะแต่งงานกับตำรวจนักสืบที่เธอรักอย่างจาเร็ด แต่เมื่อมารู้ว่าเวลา 5 ปีผ่านไปทำให้จาเร็ดแต่งงานใหม่ไปแล้ว โดยผู้หญิงที่เขาแต่งงานคือเพื่อนสนิทของมิเคล่า ยิ่งไปกว่านั้นทั้งเบน และมิเคล่า พี่น้องจากเที่ยวบิน 828 ก็ได้รับรู้ข่าวร้ายว่าแม่ของพวกเขาเสียไปแล้ว นั่นทำให้พวกเขาต่างเจ็บปวดใจยิ่ง   manifest เที่ยวบินพิศวง ปี 1 พากย์ไทย

โดยการกลับมาของเที่ยวบิน 828 ผู้โดยสารจากเที่ยวบิน 828 พบว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่สามารถรับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ นั่นก็คือเสียงเรียก(Calling) และภาพนิมิต ที่คอยตามหลอกหลอนผู้โดยสารเครื่องบินลำนั้น จนทำให้บางคนรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย เรื่องราวแปลกๆ ยังเกิดขึ้นกับแคล เด็กชายฝาแฝดคนละเพศกับโอลีฟ ที่พบว่าตัวเองยังคงรูปร่างหน้าตาเหมือนเดิม ต่างจากโอลีฟที่โตเป็นสาวเพราะกาลเวลาที่ผ่านไป 5 ปี อีกทั้งโรคที่แคลป่วยอยู่นั่นคือมะเร็งระยะสุดท้าย แคลก็ได้หายเป็นปลิดทิ้งหลังกลับมาจากการขึ้นเครื่องบินลำนั้น เบน และมิเคล่า ต่างหาคำตอบที่เกิดขึ้น พวกเขาได้รู้จักกับหมอซานวี นักวิจัยทางการแพทย์ที่ดูแลโรคมะเร็งของแคล ทำให้พวกเขาได้ร่วมมือกันหาคำตอบเรื่องราวเหล่านั้น แต่เรื่องพิศวงยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อพบว่าฆาตกรที่จมอยู่ในน้ำหลายวันและสันนิษฐานว่าเขาเสียชีวิตแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขามีดำรงชีวิตเท่ากับจำนวนวันที่เขาจมน้ำไป และสุดท้ายเขาก็ได้เสียชีวิตโดยแพทย์วินิจฉัยการตายของเขาว่าจมน้ำตาย นั่นทำให้ผู้โดยสารต่างหวาดกลัวและคาดว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นเดียวกัน   manifest ตอนจบ

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง

 

ความรู้สึกหลังดู

 

Manifest’ เป็นซีรีส์เก่าทางช่อง NBC ของอเมริกาออกฉากตั้งแต่ปี 2018 และออกมาจนถึงซีซันที่ 3 แล้วถูกตัดจบไปแม้ว่าผู้สร้างอย่าง เจฟ เรก (Jeff Rake) จะวางเนื้อหาไว้ถึง 6 ซีซันก็ตาม ก่อนที่ล่าสุดเน็ตฟลิกซ์จะเข้ามาช่วยสานโปรเจกต์ต่อในซีซันที่ 4 ที่จะลงสตรีมมิงในปีนี้เป็นซีซันจบด้วยจำนวน 20 ตอน เลยทำให้เน็ตฟลิกซ์ได้เอาซีซันเก่ามาลงให้รับชมกันรวดเดียว 3 ซีซันเลยระหว่างรอซีซันใหม่จะมา

 

และปัญหาแรกที่อยากพูดถึงแต่ต้น ๆ และเป็นข้อติงรุนแรงพอสมควรคือการที่ซีรีส์ถูกลงโครมทีเดียว 3 ซีซันอาจเป็นภาระหนักของคนแปลซับไตเติลเป็นอะไรที่เข้าใจได้ แต่คุณภาพการแปลของซีรีส์เรื่องนี้มันพลาดในจุดที่ไม่ควรพลาดมากเกินไป โดยเฉพาะการแปลตัวละครหญิงแทนตัวเองว่า ‘ผม’ มันทำให้เห็นว่าคนแปลไม่มีแม้แต่เวลาให้พินิจว่าแปลบทพูดของใครอยู่ และหลายครั้งก็แปลสลับคำในประโยคจนจับใจความจริง ๆ ไม่ได้เหล่านี้ ถ้าในอนาคตพอมีเวลา ก็อยากให้กลับมาแก้ด้วยจะดีมาก

 

ความน่าสนใจนอกจากพลอตเรื่องที่เล่ามาว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีเครื่องบินที่น่าจะหายไปเมื่อ 5 ปีก่อนอยู่ดี ๆ วันหนึ่งก็กลับมาราวปาฏิหาริย์และคนบนเครื่องนั้นไม่ได้แก่ขึ้นเลยแม้สักวันเดียว ราวกับพวกเขาข้ามเวลามา ซึ่งแค่นี้ก็ขายได้แล้ว   Manifest

 

 

มันยังเผยศักยภาพการขายเรื่องราวดราม่า การเรียนรู้เพื่ออยู่กับความพลิกผันใหญ่ในชีวิตได้น่าสนใจ บางคนเสียคุณพ่อคุณแม่ไประหว่างนี้ บางคนคู่หมั้นหันไปแต่งงานกับเพื่อนสนิท บางคนก็เจอแง่ดีอย่างป่วยเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีรักษาแต่พอข้ามเวลามากลายเป็นว่าการแพทย์พัฒนาขึ้นและมีโอกาสรอดเสียอย่างนั้น คือแต่ละตัวละครที่บังเอิญเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินนั้นต่างมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ติดตามหนังแนะนำ

 

และก็ทำให้ช่วงเวลากว่า 7-8 ตอนในซีซันแรก มันดำเนินไปเหมือนผลงานเหนือธรรมชาติที่มีกลิ่นอายของ สตีเฟน คิง (Stephen King) ซึ่งมีปริศนาเหนือธรรมชาติและเกินความเข้าใจคอยโอบล้อมเรื่องราวดราม่าของตัวละคร และมีสาระของเรื่องศรัทธาปาฏิหาริย์ ตลอดจนแนวคิดทางศาสนาคริสต์เช่น พระเจ้า พระประสงค์ การชี้นำ นิมิต ล่องลอยอยู่ตลอดเวลา ใครชอบก็ดีไป แต่ใครไม่ชอบจะรู้สึกว่าอ้อยอิ่งเหลือเกิน และดูเชยเหลือเกินกับนิมิตต่าง ๆ โดยเฉพาะปริศนาตัวหลักที่แทบไม่ได้ขยับไปมากกว่าต้นเรื่องเท่าไหร่ กว่าจะเริ่มน่าสนใจมีจุดพลิกผันใหญ่ ๆ ให้อยากดูตอนต่อไปจริง ๆ ก็ตอนที่ 9 ไปแล้ว และตัวละครที่มากมายให้นำมาใช้แต่เอาเข้าจริงก็น่าสนใจแค่ไม่กี่ตัว

 

 

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง บทบาทตัวละคร

 

 

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง

 

 

 

รีวิว manifest เที่ยวบินพิศวง ซีรีส์เรื่องManifest ที่ดำเนินเรื่องในการไขปริศนาพิศวงที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน 828 และสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสาร บทบาทของนักแสดงนำของเรื่องManifest มีหลากหลายตัวละครที่ดำเนินเรื่อง โดยตัวละครที่สำคัญของเรื่องManifest ได้แก่

 

เบน สโตน (รับบทโดย จอช ดัลลัส)

ผู้โดยสารเที่ยวบิน 828 ที่อดีตเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยสาขาวิชาคณิตศาสตร์ เบน สโตนคือพระเอกของเรื่องผู้หาคำตอบเรื่องราวพิศวงที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน เบนเป็นผู้ที่ทุ่มตัวสุดชีวิตในการตามหาคำตอบและแก้ปัญหาต่างๆ รักครอบครัว และที่สำคัญเป็นนักคิด นักวางแผนที่เก่งกาจ

 

 

มิเคล่า สโตน (รับบทโดย เมลิสซา ร็อกซ์เบิร์ก)   Manifest season 4

นักสืบมิเคล่า สโตน นางเอกของเรื่องผู้ซึ่งเป็นน้องสาวท้องเดียวกับเบน สโตน และเป็นอดีตคู่หมั้นของนักสืบจาเร็ด เธอเป็นผู้หญิงที่มีใจกล้าหาญ และฉลาดในการหาคำตอบ ด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน 828 ที่หายไป 5 ปีและเครื่องบินได้กลับมาอีกครั้ง เรื่องเศร้าก็ได้เกิดกับเธอ เมื่อเธอกลับมาพบว่าคู่หมั้นของเธอได้แต่งงานกับเพื่อนสนิทของเธอไปแล้ว อีกทั้งแม่ของเธอก็เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน

 

เกรซ สโตน (รับบทโดย อาธีนา คาร์คานิส)

ภรรยาของเบน สโตน และเป็นแม่ของโอลีฟกับแคล  เกรซ สโตน เธอเป็นผู้หญิงที่เข้าอกเข้าใจครอบครัว รักครอบครัวมากๆ และเรื่องราวของเที่ยวบิน 828 ที่หายไป 5 ปี ทำให้เธอมีพบรักกับแดนนี่ ผู้ชายที่มาดูแลเธอและโอลีฟในขณะที่เครื่องบินหายไป 5 ไป การกลับมาของเครื่องบินเที่ยว 828 ทำให้เกิดเรื่องราววุ่นๆ กับความรักของเธอ และครอบครัว

 

 

 

 

ซานวี บาห์ล (รับบทโดย พาร์วีน คาอูร์)

อีกหนึ่งผู้โดยสารของเที่ยวบิน 828 ซานวีเป็นนักวิจัยทางการแพทย์ที่คอยดูแลแคล สโตนซึ่งเป็นเด็กชายที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หมอซานวีเธอเป็นหนึ่งตัวละครที่ช่วยไขปริศนาเรื่องราวต่างๆ เธอใช้ความสามารถในด้านการวิจัยและการแพทย์ในการทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาคำตอบกับเรื่องราวพิศวง

 

จาเร็ด วิลเลียมส์ (รับบทโดย เจ.อาร์. รามิเรซ)

นักสืบจาเร็ดอดีตคู่หมั้นและเป็นคู่หูของมิเคล่า สโตน หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินหายไป 5 ปี จาเร็ดได้แต่งงานกับเพื่อนสนิทของมิเคล่า ทำให้เกิดเรื่องราวรักสามเศร้าที่พวกเขาต้องมาจัดการ จาเร็ดเป็นหนึ่งในบุคคลที่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสาร จาเร็ดยังเป็นนักสืบคอยสืบหาคดีต่างๆ และคอยให้การซัพพอร์ตนางเอกทุกอย่าง

 

ซีค แลนดอน (รับบทโดย แมตต์ ลอง)

ผู้ชายที่ติดอยู่ในถ้ำในระหว่างเกิดพายุหิมะ และได้รอดชีวิตหลังจากการช่วยเหลือของแคลเด็กที่ซึ่งเห็นนิมิต และเมื่อกลับออกมาจากถ้ำ ซีคก็พบว่าโลกความเป็นจริงผ่านไปแล้ว 1 ปี ทั้งๆ ที่เขารู้สึกว่าเขาติดอยู่ในถ้ำเพียงไม่กี่วัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับผู้โดยสารเที่ยวบิน 828

 

 

โอลีฟ สโตน (รับบทโดย ลูน่า เบลส) และ แคล สโตน (รับบทโดย แจ็ค เมสซีนา)

โอลีฟลูกสาวฝาแฝดของเบนและเกรซ เธอคือผู้ช่วยหาคำตอบได้ดีที่สุด ปริศนาของเครื่องบินมีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อดีต โอลีฟสามารถค้นคว้าและหาคำตอบการเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบันได้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาด กล้าหาญ พร้อมซัพพอร์ตทุกคนในครอบครัวเสมอ

 

ตัวละครที่สำคัญที่สุดที่จะขาดไปไม่ได้ของเรื่องManifest นั่นก็คือแคล เด็กชายผู้เชื่อมโยงกับเรื่องราวปริศนาได้ดีที่สุด เพราะเขาสามารถรับรู้เสียงเรียก(Calling) และภาพนิมิต และสามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้จากภาพนิมิตที่เกิดขึ้นกับแคลผ่านการวาดภาพลงสมุดวาดภาพของเขาเอง แคลจึงเป็นเด็กที่สามารถช่วยไขปริศนาที่เกิดได้ดีมาก

 

 

สรุปภาพรวม

 

แม้ตัวเรื่องจะมีจุดเขย่าความอยากรู้อยากชมมาช้าไปสักหน่อย แต่ทว่าช่วงปูที่ให้เราเข้าใจบริบทของแต่ละตัวละครมันก็ไม่ได้แย่ โชคดีที่ตัวเอกทั้งหลายหน้าตาจรรโลงใจให้ชมได้เพลิดเพลินด้วย ทั้ง จอช ดัลลาส (Josh Dallas) และ เมลิซซา โรซ์บวร์ก (Melissa Roxburgh) ที่เป็นคู่พี่น้องตัวนำเรื่อง รวมถึงกับพวกความขัดแย้งต่าง ๆ ระหว่างตัวละครที่พอทำให้ดูได้เรื่อย ๆ พอประมาณ

 

และพอซีรีส์เริ่มขยับมีความเป็นแอ็กชันธริลเลอร์มากขึ้น มีตัวร้ายที่ลึกลับ มีฉากไล่ล่าบ้าง มีการวางกรอบเวลาที่ต้องแก้ปมปริศนาให้ทัน ในฝั่งปริศนาก็เหมือนจะมีความคืบหน้าขึ้นทั้งตัวละครใหม่ ๆ ข้อมูลใหม่ ๆ ซึ่งเดาได้ยากที่ไม่ใช่แบบปริศนาเบา ๆ ที่คนดูเดาได้อย่างช่วงครึ่งแรก มันเลยทำให้ซีรีส์ดูน่าสนใจขึ้น

 

แต่กระนั้นปัญหาของซีรีส์ในซีซันแรกเลยคือ ตัวร้ายมันไม่ค่อยน่าสนใจ มีความลึกลับแต่ก็ไม่ได้รู้สึกทรงพลังมาก บางจุดก็เปิดมาโจ่งแจ้งไปอย่างเช่นรังบัญชาการของตัวร้ายที่เฉลยหน้าตาขององค์กรมากไปจนขาดความอยากรู้อยากเห็น แม้ปมอุปสรรคที่จะเป็นปัญหาในอนาคตเช่นเรื่อง ลัทธิผู้ศรัทธา และลัทธิผู้ต่อต้าน หรือทฤษฎีสมคบคิด การหักมุมหลอกพวกเดียวกันเอง เหล่านี้จะถูกคิดวางมาแล้วอย่างดีเพื่อให้เป็นระเบิดที่งอกเงยในซีซันต่อไป แต่ด้วยจังหวะในการเดินเรื่องที่เชื่องช้าและจำนวนตอนที่มากถึงซีซันละ 13-16 ตอน มันก็ดูไม่ค่อยสมสัดส่วนการรับชมนัก

 

 

อย่างไรก็ดีซีรีส์มีการหักมุมรุนแรง และทิ้งระเบิดโครมใหญ่ให้ผู้ชมค้างคาจนยากที่จะหยุดดูซีซันต่อไปได้เป็นความสำเร็จอย่างดียิ่ง คงดีกว่านี้ถ้ามันทำให้เรารู้สึกแบบนี้ได้กับทุกตอนไม่ใช่เฉพาะบางตอนหรือแค่ตอนสุดท้ายของซีซันนั้น ๆ เท่านั้น

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *