รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

 

 

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) หนังฝรั่ง netflix รัก      เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านการบอกเล่าของพายที่กำลังให้สัมภาษณ์กับนักเขียนหนังสือคนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเขาเอง ตั้งแต่เกิดและเติบโตขึ้นในสวนสัตว์ของพ่อเขา    ดูหนังออนไลน์    ตลอดจนที่มาของชื่อจริงว่า “พิสซีน โมลิทอร์ พาเทล” ที่ดันไปพ้องเสียงกับคำว่า “ชิ้งฉ่อง” จนเขาถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้ออยู่นาน    ดูหนังฟรี  กระทั่งเปิดเทอมใหม่ในปีถัดไปเขาก็สร้างความน่าทึ่งในการแนะนำตัวใหม่ในชื่อเล่น “พาย” ว่าเป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์และย้ำในทุก ๆ วิชาจนทำให้ทุกคนจดจำเขาในชื่อใหม่นั้นแทน นอกจากนั้นก็เป็นการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเขาอย่างเช่น การกินอาหาร การจีบสาว หรือการนับถือศาสนาที่พายเชื่อถึง 3 ศาสนาด้วยกัน เป็นต้น หนังแนะนำ

 

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) เรื่องย่อ

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) เรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวอินเดีย ชื่อ พาย พาเทล ที่มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์เรือล่ม โดยใช้ชีวิตอยู่ในเรือชูชีพเป็นเวลา 227 วัน กับบรรดาสิงสาราสัตว์นานาชนิด รวมถึงเสือเบงกอลตัวมหึมา พายต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับเจ้าสัตว์ร้ายนี้โดยใช้ความรู้ ไหวพริบ และศรัทธาทั้งหมดเพื่อให้มีชีวิตรอด

 

 

แต่ความเข้มข้นของเรื่องที่เป็นจุดเปลี่ยนนั้นจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่พ่อของพายตัดสินใจที่จะขายสวนสัตว์และสัตว์ของเขาทั้งหมดเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ที่แคนนาดา พวกเขาต้องเดินทางด้วยเรือขนส่งขนาดใหญ่พร้อมกับบรรดาสัตว์เหล่านั้น แต่ระหว่างทางเกิดมีคลื่นลมพายุจนเป็นเหตุให้เรืออับปางและพายต้องหนีลงเรือเล็ก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่กำลังลอยเคว้งอยู่กลางทะเลบนเรือชูชีพ แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือการที่พบว่าเขาไม่ได้กำลังเคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง แต่ต้องเอาชีวิตรอดกลางทะเลไปพร้อม ๆ กับ “ริชาร์ด ปาร์คเกอร์” เสือเบงกอลที่หนีจากกรงมาได้ตอนเรืออับปางนั่นเองครับ เหตุการณ์หลังจากนั้นพายได้ทำอะไรบ้างถึงสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้และมันเปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างไรคงต้องไปติดตามกันต่อใน Life Of Pi เองนะครับ หนังแนะนำ

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

 

มุมมองที่มีต่อหนัง

ในส่วนมุมมองของผมที่มีต่อหนังเรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่ตอนต้นเรื่องที่หนังใช้การเล่าเรื่องแบบเข้าใจได้ง่าย ดูได้เพลิน ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก เหมือนจะเน้นหนักไปในเรื่องของงานภาพในฉากต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามตระการตา ทำให้เราเห็นความสวยงามของท้องทะเลที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพและ CG ของสัตว์ต่าง ๆ ในเรื่องดูสมจริง ยิ่งเกาะที่พายเจอกลางทะเลโดยบังเอิญถ้าหากมีอยู่จริงคงจะสวยเอามาก ๆ เลย แต่ก็น่าเสียดายที่มันเป็นแค่เกาะแห่งจินตนาการเท่านั้น ถ้าจะบอกว่าจุดเด่นและความน่าจดจำของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ความสวยงามของกราฟิกก็คงจะไม่เกินไปนักครับ

 

ความประทับใจอีกอย่างหนึ่งของผมก็คือในหนังจะมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมต่าง ๆ ของคนอินเดียในมุมที่เราอาจจะไม่เคยรู้เคยเห็น อย่างการที่พูดถึงความเชื่อของศาสนาต่าง ๆ ทั้งฮินดู คริสฯ และอิสลามผ่านตัวของพายที่เปิดใจรับฟังคำสอนของทุกศาสนา อีกทั้งพร้อมที่จะเข้าใจว่าแต่ละศาสนานั้นล้วนแต่สอนให้เราเป็นคนดี ไม่แบ่งแยก ตัวละครที่เป็นพ่อของพายเองแม้จะเป็นคนที่ไม่นับถือศาสนาใดและแม่ที่นับถือศาสนาฮินดูก็ไม่เคยคะยั้นคะยอหรือบังคับเขาให้นับถืออะไร ถือเป็นการให้เกียรติและเคารพความเชื่อของกันและกัน ซึ่งมันเป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ   life of pi เต็มเรื่อง ไทย facebook

สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คงจะไม่พ้นประเด็นหลักของเรื่องที่ปูมาตั้งแต่ตอนต้นไปจนบทสรุปที่น่าเก็บมาขบคิดว่าท้ายที่สุดคนเราก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเรื่องไหนเป็นความจริงหรือโกหก เราแค่เชื่อในสิ่งที่เราอยากจะเชื่อเท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าพอหนังให้บทสรุปแนวนี้มาก็คงต้องขึ้นอยู่กับคนดูอย่างเราแล้วล่ะครับว่าจะคิดหรือตีความไปในทางไหน และเลือกที่จะให้อะไรเป็นเรื่องจริงบ้าง เอาเป็นว่าถ้าหากใครกำลังมองหาหนังที่ให้แง่คิดดี ๆ มีประเด็นที่น่าสนใจให้ได้วิเคราะห์และคิดตาม รวมถึงใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในโลกแห่งจินตนาการอันสวยงามของท้องทะเล กราฟิกคม ๆ สวย ๆ แล้วก็อย่าพลาดชม  Life Of Pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) ทาง Netflix

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย)

ข้อคิดที่สะท้อนจากหนัง

 

Life of Pi นั้นไม่ได้เพียงเล่าเรื่องราวการพยายามมีชีวิตรอดของเด็กหนุ่มกับเสือเพียงเท่านั้น มันยังพูดถึงเรื่องราวของชีวิตและความเชื่อด้วยภาพที่วิจิตรตระการตา อีกทั้งยังตบท้ายด้วยการนำเสนอประเด็นที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา แต่มีความหมายที่ลึกซึ้งและนุ่มนวลที่สะท้อนในเรื่องของความเชื่อทางด้านศาสนาและพระเจ้า  Live of Pi

 

 

ตั้งแต่แรก เราได้เห็นภาพของพาย หรือพิสชิน เด็กหนุ่มอินเดียที่มีเรื่องราวมากมายในชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเขา ครอบครัว และจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต พายเป็นคนที่เชื่อในศาสนา แม้ผู้เป็นพ่อจะบอกเล่าอยู่เสมอในแง่คิดที่ตรงกันข้าม แต่พายเองก็นับถือถึงสามศาสนา กระนั้นเขาก็ศรัทธาอย่างมีคำถามและใฝ่รู้ แม้การกระทำนี้จะเป็นเหมือนข้อครหาว่าที่จริงแล้วเขาไม่ได้เชื่ออะไรซักอย่างเดียวก็ตาม   The Secret of Roan Inish เต็มเรื่อง

 

ต่อมาพายก็ได้รับการทดสอบครั้งใหญ่ในชีวิต เรือโดยสารที่เขาเดินทางกับครอบครัวเพื่อย้ายถิ่นฐานจากอินเดียไปที่อื่นได้อับปางลง เขาเป็นมนุษย์คนเดียวที่มีชีวิตรอดในเรือช่วยชีวิต ไม่นับสัตว์อื่น ๆ ที่รอดชีวิตมาด้วยส่วนหนึ่ง ก่อนตัวสุดท้ายที่จะอยู่เหลือรอดกับเขาก็คือเสือเบงกอลที่มีชื่อว่า ริชาร์ด พาร์กเกอร์

 

 

ริชาร์ด พาร์กเกอร์ เป็นเสือเบงกอลในสวนสัตว์ที่ครอบครัวของพายดูแลอยู่ พายเคยอยากที่จะผูกมิตรกับมัน แต่ก็ได้รับคำสอนว่า สัตว์มีความนึกคิดที่แตกต่างจากเรา ไม่อาจจะเชื่อใจมันได้ และเพราะริชาร์ด พาร์กเกอร์นั้นเองทำให้พายได้รู้จักด้านมืดของขีวิตและสัจธรรมโลกอย่างชัดเจน ชีวิตมหัศจรรย์ของพาย Pantip

 

 

 

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) ความสำคัญในการเล่าเรื่อง

รีวิว life of pi (ชีวิตอัศจรรย์ของพาย) Life of Pi ให้ความสำคัญในการเล่าเรื่องตั้งแต่แรกเริ่ม เรารู้จักชีวิตของพายจากปากคำของเขาเอง ตั้งแต่ที่มาของชื่อ เรื่องราวต่าง ๆ แม้มันจะดูเหมือนยืดยาวจนไม่น่าสนใจ แต่มันก็เป็นการปูพื้นในเรื่องราวของตัวละครที่หนักแน่นและชัดเจน และเมื่อถึงสุดท้าย เราก็ได้รู้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่สามารถตัดทอนไปได้เลย มันทำให้เราเข้าใจในเรื่องราวอย่างกระชับได้ในช่วงที่สำคัญที่สุดของเรื่อง เหมือนกับว่าเรื่องราวมันย้อนเข้ามาในหัวของเราได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

เมื่อเนื้อเรื่องเดินเข้ามาถึงช่วงการเอาตัวรอดกลางทะเลก็ต้องเรียกได้ว่า มันปูเรื่องราวและนำเสนอได้อย่างสมจริง ทุกอย่างไม่ง่ายดาย การกระทำและแนวความคิดของตัวละครต่างก็เป็นขั้นเป็นตอน กล่าวได้ว่าด้วยรายละเอียดที่สมจริงทำให้เรื่องราวเดินไปได้อย่างน่าสนใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่ว่าใครก็คงจินตนาการไม่ออกหรอกว่า การที่จะอยู่ร่วมกับเสือบนเรือกลางมหาสมุทรนี่มันจะเป็นอย่างไรกัน

 

ถึงกระนั้น Life of Pi ไม่ได้นำเสนอภาพในแง่มุมของความเป็นจริงอย่างสุดกู่ มันยังมีเรื่องราวของเหนือจริงแทรกเข้ามาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หลุดรูปแบบมากจนเกินไป ส่วนหนึ่งสิ่งที่เป็นการรวมทั้งเรื่องเล่าที่เหนือจริงกับภาพของความเป็นจริงได้ก็คงจะเป็นการนำเสนอภาพที่สวยงามตระการตา ที่ทำให้ฉากพื้นมหาสมุทรนั้นเป็นเวทีที่สวยงามที่สะท้อนออกมาได้ทั้งเรื่องราวและภาพศิลป์ที่สวยงาม

 

 

 

มหาสมุทรอันเวิ้งว้าง ผิวน้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตาก็เหมือนกับกระจกไปใหญ่ มันไม่ได้สะท้อนภาพของโลกใบนี้แต่มันยังสะท้อนถึงชีวิต หากใช่แต่ชีวิตพายหรือริชาร์ด พาร์กเกอร์เพียงเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนภาพของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เวียนว่ายตายเกิดบนโลกนี้

 

บททดสอบครั้งใหญ่ที่พายนั้นต้องเผชิญ นอกจากการเอาตัวรอดแล้วยังมีเรื่องราวความศรัทธาของพระเจ้าและศาสนาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เล่าอย่างโจมตี ใส่ความ เพียงแต่ไถ่ถามอย่างสงสัยเพื่อหวังจะได้รับคำตอบ แม้คำตอบที่ได้มานั้นจะไม่ได้มาให้เราได้เราเห็นชัด แต่ทุกคำตอบของคำถามค่อย ๆ เล่าผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญ

 

 

 

ในช่วงท้ายของเรื่อง หนังได้เปิดเผยเนื้อหาที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อมุมมองของผู้ชม เหมือนกลายเป็นว่า เมื่อพายรอดชีวิตมาแล้ว เขาได้เล่าเรื่องให้ผู้ตรวจสอบชาวญี่ปุ่นฟัง เมื่อวิเคราะห์พิจารณาดูดี ๆ แล้ว เรื่องเล่าของพายมันเป็นเรื่องที่ยากเกินจะเชื่อ เป็นเรื่องเล่าที่เหมือนเป็นเรื่องแต่งที่ไม่น่าเชื่อถือ บุรุษอีกคนที่นั่งฟังเรื่องเล่าอยู่เอ่ยปากถาม แล้วคุณทำอย่างไร พายตอบกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า เขาเล่าเรื่องอีกเรื่องหนึ่งไป

 

อีกเรื่องหนึ่งนั้นสมจริงอย่างน่ากลัว เต็มไปด้วยความทนทุกข์ทรมานและปวดร้าว แม้เขาจะทำเหมือนกับว่า เรื่องเล่าที่เล่าใหม่เป็นเรื่องแต่งที่เพื่อให้ผู้ตรวจสอบเชื่อ แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากตามันก็เหมือนกับเป็นสัญญานที่บอกว่าทุกอย่างนั้น เกิดขึ้นจริง

 

เมื่อเปรียบเรื่องราวทั้งสองที่เล่ามา บางอย่างก็กระจ่างชัดขึ้น เหล่าสัตว์ในเรื่องนั้นมีความหมายแทนบุคคลต่าง ๆ รวมถึงเสือเบงกอลอย่างริชาร์ด ปาร์กเดอร์นั้นก็สามารถแทนที่ได้ด้วยตัวของพายเอง

 

 

ความรู้สึกหลังดู

 

ความนุ่มลึกของเรื่องราวที่ไม่ว่าจะดูเพื่อค้นหาความหมายหรือเพื่อความบันเทิงก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ยิ่งประกอบกับความงดงามของงานภาพ เสน่ห์ของการเล่าเรื่อง ที่แม้จะนิ่งเงียบ แต่ก็เดินเรื่องได้อย่างเพลิดเพลิน ประกอบทั้งงานภาพสามมิติที่ตื้นลึกช่วยให้ขับภาพงานให้สมบูรณ์มากขึ้นไปอีก

 

 

เป็นหนังที่ดีทั้งภาพ CG สวยอีกหนึ่งเรื่องที่อยากแนะนำเลย เรื่องนี้ได้สร้างมาจากหนังสือชื่อดังของ Yann Martel ที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ของ พาย เด็กหนุ่มจากอินเดีย และเรือที่ล่มกลางทะเล ขณะเคลื่อนย้ายสัตว์จากสวนสัตว์ โดยเรื่องราวชีวิตของ พาย เสือ และพระเจ้า ได้เข้ามารวมอยู่ด้วยกัน บนเรือสำรองเพียงหนึ่งลำ เป็นเวลา 227 วัน หนังเรื่องนี้จะออกแนวปรัชญานิดๆก็ว่าได้ ซึ่งหนังก็ไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นความเชื่อ ที่ให้เราต้องไปตัดสินกันเอาเอง

 

ความเข้มข้นของเรื่องที่เป็นจุดเปลี่ยนนั้นจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่พ่อของพายตัดสินใจที่จะขายสวนสัตว์และสัตว์ของเขาทั้งหมดเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ที่แคนนาดา พวกเขาต้องเดินทางด้วยเรือขนส่งขนาดใหญ่พร้อมกับบรรดาสัตว์เหล่านั้น แต่ระหว่างทางเกิดมีคลื่นลมพายุจนเป็นเหตุให้เรืออับปางและพายต้องหนีลงเรือเล็ก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่กำลังลอยเคว้งอยู่กลางทะเลบนเรือชูชีพ แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือการที่พบว่าเขาไม่ได้กำลังเคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง แต่ต้องเอาชีวิตรอดกลางทะเลไปพร้อม ๆ กับ “ริชาร์ด ปาร์คเกอร์” เสือเบงกอลที่หนีจากกรงมาได้ตอนเรืออับปางนั่นเองครับ เหตุการณ์หลังจากนั้นพายได้ทำอะไรบ้างถึงสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้และมันเปลี่ยนชีวิตเขาไปอย่างไร

 

Life of Pi นั้น ไม่ได้เพียงเล่า เรื่องราว การพยายามมีชีวิตรอด ของเด็กหนุ่ม กับเสือ เพียงเท่านั้น มันยังพูดถึง เรื่องราวของชีวิต และความเชื่อ ด้วยภาพที่วิจิตรตระการตา อีกทั้งยังตบท้าย ด้วยการนำเสนอ ประเด็นที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา แต่มีความหมาย ที่ลึกซึ้ง และนุ่มนวล ที่สะท้อน ในเรื่องของความเชื่อ ทางด้านศาสนา และพระเจ้า

 

ตั้งแต่แรก เราได้เห็นภาพของพาย หรือพิสชิน เด็กหนุ่มอินเดีย ที่มีเรื่องราวมากมาย ในชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเขา ครอบครัว และจุดเปลี่ยนสำคัญ ในชีวิต พายเป็นคนที่เชื่อในศาสนา แม้ผู้เป็นพ่อ จะบอกเล่าอยู่เสมอ ในแง่คิดที่ตรงกันข้าม แต่พายเอง ก็นับถือถึง สามศาสนา กระนั้นเขาก็ศรัทธา อย่างมีคำถาม และใฝ่รู้ แม้การกระทำนี้ จะเป็นเหมือนข้อครหา ว่าที่จริงแล้ว เขาไม่ได้เชื่ออะไรซักอย่างเดียว ก็ตาม

สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คงจะไม่พ้นประเด็นหลักของเรื่องที่ปูมาตั้งแต่ตอนต้นไปจนบทสรุปที่น่าเก็บมาขบคิดว่าท้ายที่สุดคนเราก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเรื่องไหนเป็นความจริงหรือโกหก เราแค่เชื่อในสิ่งที่เราอยากจะเชื่อเท่านั้นเอง ซึ่งแน่นอนว่าพอหนังให้บทสรุปแนวนี้มาก็คงต้องขึ้นอยู่กับคนดูอย่างเราแล้วล่ะครับว่าจะคิดหรือตีความไปในทางไหน และเลือกที่จะให้อะไรเป็นเรื่องจริงบ้าง เอาเป็นว่าถ้าหากใครกำลังมองหาหนังที่ให้แง่คิดดี ๆ มีประเด็นที่น่าสนใจให้ได้วิเคราะห์และคิดตาม รวมถึงใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในโลกแห่งจินตนาการอันสวยงามของท้องทะเล

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *