ดูบอลสด
รีวิว Holidate (Netflix)
Holidate หรือ ชื่อทับศัพท์ ฮอลิเดท ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ฟีลกู๊ด กำกับโดย จอห์น ไวท์เซลล์ โดยมี MCG โปรดิวเซอร์ที่เคยฝากผลงานในภาพยนตร์คัลท์ ๆ พี่เลี้ยงไล่เชือดในเน็ตฟลิกซ์อย่าง THE BABYSITTER เน็ตฟลิกซ์ เป็นผู้จัดจำหน่าย นำแสดงโดย เอมม่า โรเบิร์ต, ลูค บาร์ซีย์, คิง บาช, เจสสิกา แคปชอว์, มานิช ดายัล, คริสติน เชโนเวธ ซึ่งนักแสดงเหล่านี้ก็เป็นที่รักในวงการฮอลลีวู้ด แต่สำหรับคนไทยอาจจะไม่คุ้นถ้าไม่ได้ตามเรื่องวงการบันเทิงต่างประเทศ แต่เมื่อพวกเขามารวมตัวกัน หนังเรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไรกันแน่นะ! แฟนวันหยุด สำหรับประเทศไทย คงจะมองว่าแปลก แต่ที่ต่างประเทศ มันเป็นเรื่องปกติเลยก็ว่าได้ แค่มีข้อตกลงคนเราจะเป็นแฟนแม้แค่เพียงวันหยุดก็ย่อมได้ ที่นั่นเขาเปิดกว้างเหมือนเรื่องการไปเดทนั่นแหละครับ
Holidate เป็นภาพยนตร์ที่เชื่อว่าใครหลายคนได้ยินพล็อตก็ต้องเบือนหน้าหนีเพราะเรื่องของรอมคอมชายหญิงที่มาพบรักกันในสถานการณ์บางอย่าง เป็นที่น่าเบื่อหน่ายจริง ๆ แต่สำหรับคนที่ชอบนักแสดงอย่าง เอมมา โรเบิร์ต ที่ผมรู้จักเธอมาตั้งแต่ในเรื่อง American Horror Story ที่โผล่มาแทบทุกซีซั่น ภาพยนตร์ที่มาในแนวระทึกขวัญเช่น SCREAM 4, NERVE และ THE HUNT ที่โผล่มาให้ทุกคนอึ้งเล่น ๆ แต่เมื่อเธอต้องมารับบทนำในภาพยนตร์รอมคอมก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่ใช่เล่น ไหนจะลูค บาร์ซีย์ที่ผมไม่เคยรู้จักผลงาน นอกจากตอนที่ดู G.I. Joe: Retaliation ในบททหารคอบบร้าแล้วผมก็ไม่รู้จักอะไรเลย แต่ว่า เมื่อต้องมารับบทนำชาย เขากลับมีเสน่ห์สไตล์ชาวออสเตรเลีย ที่ดูแล้วก็ไม่แย่ ถ้าจะให้เขาพยุงหนังร่วมกับ เอมม่า โรเบิร์ต และผมก็โอเคมาก และนักแสดงที่น้อยคนจะรู้จักที่มาร่วมกันทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจในเรื่องของการแสดงและเคมีของตัวละคร โว้ย พูดมากแล้ว ไปฟังเรื่องย่อดีกว่า
หนังว่าด้วยเรื่องราวอลหม่านของ สโลน สาวสวยมั่นใจที่อกหักจากแฟนหนุ่ม และทำเหมือนว่าตัวเองโสดก็แฮปปี้ได้ แต่ดูเหมือนครอบครัวจะมองว่าเธอกำลังปิดกั้นตัวเอง จึงเสนอการดูตัวที่ทำให้เธอปัดทิ้งไปตลอด กระทั่งเธอได้พบกับ จอหน์สัน โปรกอล์ฟหนุ่มรูปหล่อเจ้าคารม กวนประสาทที่เข้ามาขอให้เธอเป็นแฟนวันหยุด หรือ Holidate และด้วยความที่เธอกับเขาเข้าขากัน เงื่อนไขแฟนกันแต่ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันในวันหยุดสำคัญจึงเริ่มขึ้น แต่ความอลหม่านมากมายนั้นก็ตามมา เมื่อทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างตกหลุมรักกันซะเอง เอ้า แล้วสรุปแฟนวันหยุด จะสะดุดรักกันได้จริง ๆ เหรอ”
รีวิว Holidate (Netflix) เนื้อเรื่อง
สำหรับสโลน (เอ็มมา โรเบิร์ต) สาวสุดมั่นที่โดนแฟนหนุ่มสุดเซ็กซี่บอกเลิกมาไม่นาน แม้เธอจะวางมาดซะดีว่าเป็นโสดแล้วชีวิตก็สามารถเริงร่า ทำอะไรก็ได้ แต่คงไม่ใช่ในสายตาของคนอื่นและครอบครัว ที่มองออกว่าสโลนกำลังกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดหวังในใจตัวเอง แม้บรรดาพี่สาวและแม่ของสโลนจะพยายามจุ้นจ้านเรื่องความรักโดยเฉพาะการควานหาหนุ่มๆมาจับคู่ให้กับสโลน แต่เธอก็ดูยังไม่พร้อมจะมีคนใหม่
จนกระทั่งวันหนึ่งสโลนได้พบกับจอห์นสัน (ลุค บราซีย์) โปรกอล์ฟหน้าตาหล่อเหล่า เจ้าคารมและมีมาดยียวนกวนประสาท ซึ่งเข้ามายื่นขอเสนอให้สโลนคบกันกับเขาเฉพาะในทุกๆวันหยุดสำคัญ แน่นอนว่าจากการลองเป็นแฟนกันแค่วันหยุด ก็เริ่มพัฒนาความรู้สึกในใจของแต่ละฝ่ายจนท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะตกหลุมรักกันเองหรือไม่
Holidate เป็นหนังรอมคอมที่หยิบเอาแพทเทิร์นของหนังพ่อแง่แม่งอนมาดัดคาแรกเตอร์ตัวละครให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น สโลนเป็นผู้หญิงเก่ง ทำงานเก่ง แต่ในเรื่องความรักเธอดูจะผิดหวังและหงุดหงิดในทุกครั้งที่เธอเห็นแฟนเก่าของตัวเองคบกับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยกว่า อายุน้อยกว่าและเซ็กซี่มากกว่าตัวเอง แน่นอนเมื่อเธอเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สโลนก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น
ในขณะที่ในมุมของจอห์นสันเองที่ดูจะเป็นผู้ชายปากหมา ห้าวเป้งแต่ในมุมเล็กๆน้อยๆ เขาก็เป็นคนที่เรียกได้ว่า “ใส่ใจ” ได้อย่างน่าอัศจรรย์อาทิ ฉากที่เขาเห็นสโลนกำลังหน้าเจื่อนตอนเจอแฟนเก่าในซูเปอร์มาร์เกต เขาก็รีบปรี่เข้าไปแสร้งทำว่าตัวเองเป็นแฟนใหม่ของสโลนเพื่อให้เธอไม่เสียหน้า หรือการตามใจสโลนว่าเธออย่างจะเต้นท่าไฮไลท์แบบในหนัง Dirty Dancing จอห์นสันก็ตามใจเธอแบบไม่อิดออด
อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นหนังรอมคอมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่อง “ช่วงเวลา” ระหว่างเทศกาล ว่าระหว่างที่พระนางทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันพวกเขามีความรู้สึกนึกคิดและการใช้ชีวิตประจำวันกันอย่างไรบ้าง ทำให้ห้วงอารมณ์ของ “ความห่างไกลกัน” ไม่ได้รับการนำเสนอเท่าที่ควร เพราะหนังเล่นตัดฉากจากเทศกาลหนึ่งไปสู่อีกเทศกาลหนึ่งเลย ทำให้เรารู้สึกไปว่าตัวละครทั้งสองเชื่อมโยงผูกพันกันตลอดเวลา
เนื้อเรื่องก็ธรรมด๊าธรรมดา แต่ทำไมน่ารักจัง
เนื้อเรื่องมีความพยายามแซะตรกะหนังรอมคอมที่หนังเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนกัน สอดแทรกด้วยป๊อบคัลเจอร์ที่เข้ามาช่วยเล่าเรื่องและความสัมพันธ์ของตัวละครเอกอย่างสโลนและจอหน์สัน ที่บอกเลยว่าเราอมยิ้มทุกครั้งที่เห็นสองคนนี้ต่อปากต่อคำกัน ทำเหมือนไม่สนใจกัน ฟังเหตุผลกันและกัน ทะเลาะกัน ห่วงใยกัน แต่ผมไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ เพราะพลอตมันก็คือ สาวชีวิตพัง เจอหนุ่มหล่อกวนประสาทเข้ามาวุ่นวายในชีวิต มีเงื่อนไขนั่นนู่นนี่ แต่สุดท้ายก็เริ่มแหกกฏรักกัน แต่สิ่งที่มันน่ารักคือสภาพแวดล้อม และรายละเอียดรอบ ๆ ตัวละครที่ให้ความสำคัญที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครไม่ได้เป็นแค่หนุ่มสาวแบนเรียบ แต่เขาก็คือมนุษย์ที่ต้องการความรักและความเข้าใจ และการที่เขาเจอกันมันอาจจะเป็นพรมลิขิตหรือบุญกรรมอะไรในชาติก่อน แต่ถ้าดูจนถึงแค่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เราก็รู้แล้วล่ะ ว่าพวกเขาคู่กันแน่นอน แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นก็มีอุปสรรคที่ชวนให้น่าหงุดหงิดและลำไย จนต้องร้องออกมาเพราะความอิน ใช่ มันมีครับ
สอดแทรกมุกตลก และวัฒนธรรมของคนอเมริกัน
หนังเล่าถึงความรักในเทศกาลวันสำคัญ (แฟนวันหยุด) เราจะได้เห็น วันชาติ วันวาเลนไทน์ วันคริสต์มาส วันฮาโลวีน ไปพร้อม ๆ กับตัวละครในเรื่องที่มาในหลายลุค หลายชุด หลายท่าทาง บางเทศกาลก็จะมีเหตุการณ์สำคัญที่ค่อย ๆ ทำให้ความสัมพันธ์หรือความรู้สึกตัวละครเปลี่ยนไป พร้อมมุกตลกที่โผล่มาให้ขำไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือการกระทำของตัวละครทั้งตัวเอก ทั้งสมทบที่ออกมาปล่อยมุกเบา ๆ ให้อมยิ้มกัน มุกน่ารัก มุกทะลึ่ง มุกกวน มุกสไตล์อเมริกา (เช่น ดูดปุ๊น เซ็กซ์) ตามประสาหนังรอมคอมอเมริกันโผล่มาหมด แต่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรขนาดนั้นหรอก เพราะงั้นอย่าคาดหวังว่าหนังจะให้อะไรใหม่เลย มันก็ดาษดื่นประสาหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ปมไม่ซับซ้อนอะไรหรอก ออกจะน่ารำคาญเบา ๆ
ตามสูตรหนัง เมื่อเข้าสู่ช่วงหนึ่ง จะเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งในตัวละคร ซึ่งมาจากปมของตัวละครตัวหนึ่งที่ทำให้เรื่องมันพลิกมาเป็นดราม่าเบา ๆ ไหนจะเรื่องของครอบครัวของสโลนที่กำลังจะมีอะไรน่าสนใจ แต่แล้วก็ถูกตัดไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร ทั้ง ๆ ที่ความจริงสามารถขยายมากกว่านี้ แต่คงกลัวแย่งซีนพระนางเลยยัดดราม่าพ่อแง่แม่งอนมาให้รำคาญใจเล่น ซึ่งนักแสดงทุกคนก็แสดงได้ดี ไม่ได้แย่เลย เอมมา โรเบิร์ตกับลูค บาร์ซีย์ กลายเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังไปเลย เพราะเคมีของทั้งคู่ที่เริ่มตั้งแต่หนังสิบนาทีแรก จนจบ ทำให้ผมตรึงกับเรื่องและยิ้มฟินไปจนจบ ไหนขณะที่คนอื่นก็มีประปราย มีดีบ้าง เบาบ้าง เท่าที่บทจะมีให้ได้ แต่ยังไงก็ช่วยทำให้หนังสมบูรณ์และเป็นแบบที่มันเป็นได้ โดยที่ไม่ต้องพยายาม จะเป็นหนังรักปรัชญา บทคมคาย เราอาจจะไม่ต้องการอะไรขนาดนั้น เราอาจจะต้องการหนังรักสักเรื่องที่มีเคมีนักแสดงดี ๆ ก็คงเพียงพอแล้วล่ะ
ควรชมหรือข้าม?
ฮอลิเดทเป็นหนังดีเลิศจนแบบว้าวมั้ย ไม่ แต่ถ้าถามว่าดูสนุก ดูเพลิน ดูแล้วฟินหรือเปล่า ผมขอตอบเลยว่าใช่ เพราะด้วยวันหยุดแบบนี้ ภาพยนตร์แบบนี้ โรแมนติกคอมเมดี้หนุ่มสาวที่ชวนให้เรานึกถึงช่วงหนังรักฟื้นฟูยุค 90 แต่มีความนำสมัย แต่ไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่พอจะเติมเต็มช่วงเวลาที่หนังรักสมัยนี้ก้าวสู่ความซับซ้อน หรืออะไรต่าง ๆ นา ๆ ที่ใครหลายคนอาจกำลังโหยหา หรืออยากได้หนังที่สามารถดูได้เพลิน ๆ ตลอดชั่วโมงครึ่ง ถ้าจะถามว่าหนังเรื่องนี้พลาดตรงไหน มันพลาดที่บท แต่ถ้าไม่ใช่บทแบบนี้ ผมก็คิดภาพหนังเรื่องนี้ไม่ออกแล้วจริง ๆ แถมนักแสดงหลายคนก็หล่อสวยและแสดงดีจนเราอินไปจนจบได้ ผมขอแนะนำให้ทุกคนได้ไปดู เพราะผมเชื่อว่ามันไม่ใช่หนังที่ดูแล้วเสียเวลาแน่นอนในความคิดของผม แถมตอนนี้ผู้เขียนบทผู้กำกับก็เตรียมแผนสำหรับภาคต่อไว้แล้วอย่าง Holimates: Holidate Down Under ต้องมาลุ้นว่าจะเป็นจริง หรือถูกพับเก็บแบบโปรเจกต์หนังเน็ตฟลิกซ์เรื่องอื่น ๆ หรือไม่ แต่ถ้าภาคใหม่มา ผมจะมารีวิวเหมือนเดิมแน่นอนครับ
สรุป
ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้พล็อตธรรมด๊า ธรรมดา แต่มีมนต์เสน่ห์ด้วยเคมีนักแสดง และนักแสดงที่ทำให้อมยิ้มได้จนจบ
จุดเด่น
เคมีนักแสดงเข้าขากันมาก ทำให้หนังดูสนุกขึ้น
เรื่องราว ไม่ได้ซับซ้อน ไม่ต้องคิดอะไรมากระหว่างดู
มุกตลก และการแสดงลงตัวทุกคน
ปมตัวละครหลักที่น่าสนใจ
จุดด้อย
มันง่ายไปหมด หนังมันสูตรสำเร็จเกินไป ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย
ปมตัวละครไม่ได้ถูกเอามาใช้อย่างเต็มที่
บางมุกอาจไม่เก็ต เพราะเป็นมุกสไตล์อเมริกัน
ดูจบแล้วก็อาจจะไม่มีอะไรน่าจดจำ สำหรับคนที่เบื่อหนังสูตรสำเร็จ
