รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

https://nungmaionline.com/wp-admin/post.php?post=563&action=edit

 

 

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard เรื่องย่อ

 

เมื่อ ‘ไมเคิล ไบรซ์’ (Ryan Reynolds) สุดยอดบอดี้การ์ดระดับพระกาฬ เลือกที่จะพักงานตัวเองเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แต่แล้วเขากลับถูก ‘ซอนญา คินเคด’ (Salma Hayek) ภรรยาของมือสังหารรุ่นใหญ่ลายครามแห่งวงการนักฆ่าอย่าง ‘ดาเรียส คินเคด’ (Samuel L. Jackson) หลอกให้มาทำภารกิจช่วยตามหาสามีที่โดนลักพาตัว ก่อนที่ทั้งสามคนจะต้องร่วมมือกันหยุดยั้งวายร้ายสุดเหี้ยม ‘อริสโตเติล’ (Antonio Banderas) ที่หมายจะก่อวินาศกรรมทั่วยุโรป

 ดูหนังออนไลน์ 

 

หลังจากสร้างความฮาด่าวายป่วงกันมาครั้งหนึ่งแล้วใน ‘Hitman’s Bodyguard’ (2017) ที่ได้รับความนิยมชมชอบในแอ็กชันบ้าระห่ำ และมุกด่าแบบถึงพริกถึงขิงอย่างล้นหลาม ถ้าจะให้เล่าสั้น ๆ ก็คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับบอดีการ์ดผัวไปหาเมีย คือ ‘ไมเคิล ไบรซ์’ (Ryan Reynolds) อดีตบอดีการ์ดระดับทริปเปิลเอ ต้องพา ‘ดาเรียส คินเคด’ (Samuel L. Jackson) มือปืนไม้เบื่อไม้เมาไปเป็นพยานในคดีที่ศาลโลก ที่มีส่วนทำให้ ‘ซอนญา คินเคด’ (Salma Hayek) ภรรยาของดาเรียสต้องติดคุกที่เนเธอร์แลนด์ภายใน 24 ชั่วโมง

 

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

 

 

จนกระทั่งมาถึงภาคนี้ ‘Hitman’s Wife’s Bodyguard’ หรือ ‘แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด 2’ ว่าด้วยเรื่องของไมเคิล ไบรซ์ ที่ตัดสินใจพักงานจากการเป็นบอดีการ์ดเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แต่แล้วซอนญา กลับมาตามไบรซ์ให้ไปช่วยตามหาสามีที่โดนลักพาตัว ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลาย ทั้งสามคนจะต้องเข้าไปพัวพันกับการหยุดยั้งแผนของ ‘อริสโตเติล’ (Antonio Banderas) ผู้นำแห่งกรีซที่มีแผนก่อวินาศกรรมยุโรปเพื่อแก้แค้นที่กรีซโดนประกาศคว่ำบาตร สรุปก็คือ ภาคนี้ บอดีการ์ดพาเมียไปหาผัวนั่นเอง จบข่าว (555)

   ดูหนัง   

 

หลายคนอาจสงสัยว่า จำเป็นต้องดูภาคแรกหรือเปล่า คำตอบคือจำเป็นครับ แม้ว่าตัวหนังจะมี Flashback ให้ดู (ซึ่งผู้เขียนคิดว่า การใส่ภาพแฟลชแบ็กแบบที่เอาภาพจากภาคที่แล้วมาแปะ ๆ เหมือนที่ทำในภาคนี้ มันออกจะดูไม่ค่อยมีชั้นเชิงไปหน่อยนะ) แต่ก็จะมีพล็อตบางส่วนที่เล่าเกี่ยวพันไปถึงภาคที่แล้ว หรือมีบางฉากที่พี่แกเล่นคัดลอกมาจากภาคที่แล้วแบบจงใจให้หวังฮาก็มี รวมทั้งปูมหลังต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักทั้งสามด้วย ผู้เขียนเลยคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งครับที่ควรจะดูภาคแรกเพื่อปูเรื่อง แล้วก็เก็ตบางมุกในภาคนี้ (ที่มาจากภาคที่แล้ว) ด้วย

 

 

ซึ่งในภาคนี้ ในแง่ของพล็อต ผู้เขียนมองว่ามีความเข้าถึงง่ายกว่าภาคที่แล้วครับ ภาคนี้ดูเหมือนตัวละครที่เล่าเรื่องจะมีน้อยลงกว่าภาคที่แล้วพอสมควร ดูไม่เฉียดกรายไปเล่าเกี่ยวกับการเมืองเหมือนภาคแรก ภาคนี้เลยวางตัวให้ทั้งสามคนไปช่วยหยุดแผนวินาศกรรมยุโรป ควบไปกับการพิทักษ์ผัวเมียที่กำลังจะวางแผนสร้างครอบครัวให้ได้ฮันนีมูนกันอย่างตลอดรอดฝั่ง แล้วก็จะขับเคลื่อนด้วยแอ็กชันบู๊ฮา ๆ ที่จัดเต็มแบบยาวเหยียดชนิดที่ไม่ได้หยุดหายใจกันเลยทีเดียว แถมมีให้ดูกันทั้งเรื่องด้วยครับ คอแอ็กชันน่าจะปลื้ม

 

 

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

 

แต่จะว่าเป็นข้อสังเกตหรือไม่ก็ได้นะครับ แต่ผู้เขียนโดยส่วนตัวคิดว่าแอบชอบวิธีการดำเนินเรื่องของภาคที่แล้วมากกว่านิดนึงแฮะ ในแง่ของความพอดี ทั้งพาร์ตแอ็กชัน พาร์ตปูมหลัง ดราม่า และมุกฮา ๆ ที่ใส่มาแบบพอดิบพอดี แต่ด้วยความที่ภาคนี้ถือว่าใส่ฉากแอ็กชันฮา ๆ แบบเน้น ๆ และสอดแทรกเรื่องราวปูมหลังของแต่ละตัวละครเพื่อเฉลยปมต่าง ๆ ว่าอะไรเกิดขึ้นเพราะอะไร เคยมีอดีตอะไรต่อกันมา โน่นนั่นนี่ กลายเป็นว่าปูมหลังของแต่ละคนทำไมมันดูแบบว่า วอตเดอะฟ… (555)

  ดูหนังออนไลน์

 

คือมันดูมีความต๊องยังไงก็ไม่รู้สิครับ คือมันก็ยังมีเหตุมีผลรองรับให้พอเข้าใจได้แหละนะครับ แต่มันก็ดูเหนือกว่าความเป็นจริงมากไปสักหน่อย ดูแล้วก็ต้องคิดตามว่า เอ๊ะ อิีหยังวะ งี้ก็ได้เหรอวะ หรือที่ไม่มีลูกกันเพราะแบบนี้ก็ได้เหรอวะ นี่ยังไม่นับว่าตายยากด้วยนะครับ โดยเฉพาะพี่ไบรซ์ ที่ไม่ว่าจะเจออุบัติเหตุ โดนยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่ตายซะที พี่เป็น Deadpool ปลอมตัวมาใช่มั้ย (555) พี่ดาเรียส คินเคดก็อีกคน พอมาภาคนี้ยิ่งอึดกว่าเดิมอีก แล้วมาเจอพล็อตบ้าบอฉิบหายวายป่วงเข้าไปอีก คืออีดนิดนึงก็จะเป็นการ์ตูนแล้วนะเนี่ย (555)

 

 

การแสดง

 

ส่วนในแง่การแสดง แน่นอนว่า คำหยาบคายด่าพ่อล้อแม่แบบอร่อยเหาะ ยังคงเป็นจุดขายของหนังเรื่องนี้ที่ทำได้อย่างเหนียวแน่น (ก็ระดับเจ้าพ่อ MTFK มาเองนี่นะ) ซึ่งในภาคนี้บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะบทสนทนายังเต็มไปด้วยคำหยาบคายแบบชนิดที่เรียกว่าอร่อยเหาะไปเลย สามนักแสดงหลักก็ยังคงรับส่งโบ๊ะบ๊ะกันได้อย่างดีครับ โดยเฉพาะเพื่อนคู่กัดนี่ไม่ต้องพูดถึง เคมีรับส่งรับด่ายังคงเอร็ดอร่อยเหมือนเดิมคงเส้นคงวา แต่ที่มีสีสันที่ชัดเจนในภาคนี้ก็คือเจ๊ซัลมา ฮาเยกนี่แหละ นอกจากจะเซ็กซี่แล้ว เจ๊แกยังพ่นคำด่ายิ่งกว่ารัวปืนกล แถมเจ๊ยังรับหน้าที่ ปล่อยมุกทะลึ่งแต่เพียงผู้เดียว ทั้งบทพูดและแอ็กชัน ชนิดที่ว่ามุกทะลึ่งกลายเป็นทางมุกประจำภาคนี้ไปแล้ว

  ดูหนัง   

 

แน่นอนว่าพอเป็นหนังภาคต่อ ก็จะมีข้อสงสัยอีกว่า แล้วมันจะมีภาค 3 เป็นไตรภาคอะไรแบบนี้ด้วยมั้ย หลังจากที่ผู้เขียนดูแล้วก็คงคิดได้แค่ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ แม้ว่าเนื้อหาในภาคนี้ถือว่าค่อนข้างสรุปจบได้ค่อนข้างสมบูรณ์ และอธิบายปูมหลังต่าง ๆ ไว้มากพอสมควรแล้ว ซึ่งถ้ายังอยากจะสร้างภาคต่ออีก จะให้บอดีการ์ดพาใครไปหาใครอีก อันนี้ก็สุดจะเดา แต่ถ้าคิดว่าจะให้มันจบบริบูรณ์ไปเลยก็น่าจะได้เหมือนกัน เพราะว่าภาคนี้เอาจริง ๆ ก็ถือว่าบ้าบอคอแตกไปเกือบสุดเบอร์เหมือนกัน คือแบบว่า นาทีนี้พี่อยากทำอะไรก็ทำไปเลยก็แล้วกัน นึกทรงไม่ออกเลยว่าถ้ามีภาค 3 ตามมาอีกมันจะบ้าบอไปถึงไหน

 

รีวิว Hitman’s Wife’s Bodyguard

 

ความรู้สึกหลังดู

 

ถ้าให้พูดตรงๆ ก็คงจะต้องบอกว่า…หนังเรื่องนี้มีบุญมากๆ ที่ได้นักแสดงระดับนี้มาช่วยพยุงตัวหนังเอาไว้ทั้งเรื่อง การที่ “ไรอัน เรย์โนลด์ส” กับ “ซามูเอล แอล. แจ็คสัน” กลับมารับบทเดิมในภาคต่อเรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนังที่สั่งสมกุศลผลบุญเอาไว้ดีแท้ๆ แล้วยังได้นักแสดงเสริมมาสมทบ “ซัลมา ฮาเย็ก”, “แอนโตนิโอ แบนเดอรัส” หรือ “แฟรงก์ กริลโล” นี่มันคงองค์ประชุมของเหล่าขาบู๊ชัดๆ

 

แต่เนื้อในของ Hitman’s Wife’s Bodyguard คือความกลวงแบบสุดๆ เช่นเดียวกัน โครงสร้างของหนังเข้าขั้นค่อนข้างย่ำแย่เลยทีเดียว เป็นหนังแอคชั่นรสชาติฝาดคอ บังคับให้ผู้ชมพยายามกลืนก้อนฝาดๆ นี้เข้าไป ด้วยการยัดฉากบู๊เท่ๆ ใส่เข้ามา กับมุกตลกหยาบๆ ปะปนกับมุกตื้นๆ ที่ดูไปแล้วมีทั้งขำออกและขำไม่ออก (แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยขำเท่าไหร่) ไปตลอดทั้งเรื่อง

 

บทหนังภาคที่แรกที่ว่าแย่แล้ว มาในภาคนี้ยิ่งแย่กว่าเดิมอีก เพราะไม่สามารถเอาหลักเอาเกณฑ์ใดๆ กับบทหนังเรื่องนี้เลย อยากจะเขียนอะไรหรือเสริมตรงไหนก็ทำได้ตามใจเธอ บางทีก็ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่นั่งดูซีรีส์เกาหลีเรื่องดัง The Penthouse ที่มีความขึ้นๆ ลงๆ ในตัวบทแบบสะเปะสะปะ ตายจริงหรือตายทิพย์ ไม่มีกฎตายตัวในเรื่องนี้ เรื่องจริงหรือเรื่องหลอกก็ไม่ถือสากัน

 

Hitman’s Wife’s Bodyguard ยังเต็มไปด้วยลูกเล่นแบบเดิมๆ แทบไม่มีอะไรใหม่ มุกตลกเจ็บตัวซ้ำๆ ยังใส่เข้ามาบ่อยจนแทบไม่ตลกแล้ว แต่เซอร์ไพรส์ของหนังก็ยังเสริมเข้ามาเรื่อยๆ นอกจากบทหนังที่จะเซอร์ไพรส์กับอาการดิ่งเหวแล้ว ยังมีนักแสดงรับเชิญที่ต้องทำให้รู้สึกว้าวได้เรื่อยๆ ด้วย

 

รีวิวหนัง   

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นอะไรที่คอหนังที่เน้นความบันเทิง อยากดูฉากบู๊มัน ๆ ที่จัดเต็มกว่าภาคที่แล้ว แถมยังแทรกความฮากันแบบล้นเหลือ บทด่าทีี่เอร็ดอร่อยจากสองตัวพ่อ แกล้มมุกทะลึ่งทะเล้นของตัวแม่ พร้อมกับมุกฮา ๆ ที่แบบว่ากล้าเขยิบความติงต๊อง (แต่ไม่ง้องแง้ง) ขึ้นมาอีกระดับ กลายเป็นความบันเทิงบ้าบอคอแตกแบบฉิบหายวายป่วงแบบที่ไม่ต้องตั้งการ์ดอะไรก่อนดูให้วุ่นวาย แบบว่าเอาหัวว่าง ๆ เข้าไปรับแรงปะทะแรง ๆ ผสมสำเนียงกระแทกเสียงด่า MTFK จากลุงแซมมวล แอล แจ็กสัน และมุกทะลึ่งพอออกรสออกชาติของเจ๊ซัลมา ฮาเยก แค่นี้ก็คุ้มแล้วล่ะครับ

 

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Hitman’s Wife’s Bodyguard

 

ประเภท: แอคชั่น / ตลก / ผจญภัย

ผู้กำกับ: แพททริก ฮิวจ์ส

นำแสดงโดย: ไรอัน เรย์โนลด์ส, ซามูเอล แอล. แจ็คสัน, ซัลมา ฮาเย็ก

ความยาว: 100 นาที

กำหนดฉายในไทย: 4 พฤศจิกายน 2021

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *