รีวิว – fifty shades freed

รีวิว - fifty shades freed

รีวิว – fifty shades freed

 

 

 

 

 

ภาพยนตร์ภาคต่อความสัมพันธ์ระหว่างแอนาสเตเชีย     ดูหนังออนไลน์       รับบทโดย ดาโกต้า จอนห์สัน และมิสเตอร์เกรย์       รับบทโดย เจมี่ ดอร์แน่น หลังจากภาคที่แล้วทั้งคู่ได้ตกลงแต่งงานกัน    ดูหนังฟรี   และในภาคนี้จะเป็นการออกไปท่องโลกฮันนีมูนให้แฟนหนังได้อิจฉาตาร้อนผ่าว  หนังฝรั่ง netflix รัก      รวมถึงล้วงลึกเข้าไปถึงอีกด้านของจิตใจของคุณเกรย์

ถึงแม้ไตรภาคหนังรักแบบโซ่ แส้ กุญแจมือเรื่องนี้จะเริ่มต้นด้วยความเป็นเทพนิยายของหญิงสาวโลกสดใส กับชายหนุ่มมหาเศรษฐีรูปงามผู้หลงใหลในเซ็กซ์แบบ SM แต่เมื่อหนังเดินทางมาถึงการตัดสินใจแต่งงานในท้ายเรื่องของหนังภาคที่ 2 เทพนิยายแสนหวานควรจะจบลงตั้งแต่ตรงนั้น แต่ Fifty Shade Freed สานต่อเรื่องราวจากจุดนั้น

 

ยังคงสร้างความเสียวซ่านต่อเนื่อง เป็นอีกเรื่องที่คนดูอย่างเราไม่ควรคาดหวังอะไร ชวนคนรักรู้ใจหรือใครก็ได้อายุ 20+ เข้าไปดูมาฟินพระนางเข้าคู่อวดเรือนร่างเซ็กซี่ ลีลาเซ็กซ์เร้าร้อน ที่จัดเต็มแบบถี่ยิบเช่นเคย รวมถึงไปดูภาพสวยๆ เพลงดีๆ ดูเพลินกับสองนักแสดงหนักที่ขนเสน่ห์มาแบบล้นจอเช่นเคย มิสซิสเกรย์นี่แหละ ชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนฝันอยากจะเป็น…  สวย เก่ง ชีวิตแสนสบาย วาสนาดี สามีหล่อรวยฯ หนังแนะนำ

 

รีวิว – fifty shades freed เรื่องย่อ

 

รีวิว – fifty shades freed  ภาพยนตร์ภาคต่อความสัมพันธ์ระหว่างแอนาสเตเชีย รับบทโดย ดาโกต้า จอนห์สัน และมิสเตอร์เกรย์ รับบทโดย เจมี่ ดอร์แน่น หลังจากภาคที่แล้วทั้งคู่ได้ตกลงแต่งงานกัน และในภาคนี้จะเป็นการออกไปท่องโลกฮันนีมูนให้แฟนหนังได้อิจฉาตาร้อนผ่าว รวมถึงล้วงลึกเข้าไปถึงอีกด้านของจิตใจของคุณเกรย์

 

หนังแนะนำ

 

สิ่งหนึ่งที่ควรทำความรู้จักกับหนังชุด Fifty Shades คือแม้มันจะเอาเซ็กส์แบบ BDSM (Bondage , Discipline, Sadism, Masochism) มาเป็นจุดขายแต่การนำเสนอก็ไม่ได้รุนแรงแบบถึงเลือดถึงเนื้อเหมือน In The Realm of the senses (1976) หนังญี่ปุ่นที่ถือเป็นบิดาแห่งหนังทางนี้ ตรงกันข้ามสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกดูจะคลั่งนิยายและหนังชุดนี้คงเป็นแฟนตาซีโรแมนติกชวนเพ้อเรียกง่ายๆนี่คือ ซินเดอเรลลาฉบับซั่มสวาทที่เปลี่ยนจากเจ้าชายมาเป็นหนุ่มหล่อมหาเศรษฐีคลั่งเซ็กส์แบบเจ็บๆ และนางซินก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อันนาสเตเชีย ที่ค่อยๆถูกเปลี่ยนจากนักศึกษาแต่งตัวบ้านๆสู่ชีวิตครอบครัวไฮโซที่สาวๆสามารถเพ้อฝันเอาตัวเองไปแทนที่หล่อนเพื่อตอบสนองความสุขทางใจได้ ดังนั้นฉากเซ็กส์ต่างๆในหนังจึงถูกถ่ายทอดออกมาให้ชวนปรารถนามีทั้งความสวยงามของเรือนร่างนักแสดงและบทพูดที่ค่อยๆเปิดเปลือยให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว คริสเตียน เกรย์ ไม่ได้ไร้หัวใจอย่างที่เห็น (แหม่นึกถึงคาแรกเตอร์ เคน ธีรเดช ในละครหลายเรื่องเลยไหมล่ะ ฮ่าาา)  ดังนั้นหากใครจะหวังเห็นฉากถึงเนื้อถึงตัว โซ่ แส้ กุญแจ มือ เฆี่ยนตี บุกตะลุยกันถล่มทลาย นี่ไม่ใช่หนังของคุณแน่นอน

 

 

 

ข้อดีของหนัง

 

ข้อดีหลักๆของ Fifty Shades Freed เลยคือภาคนี้มันมีจุดขัดแย้งที่ทำให้เรื่องน่าสนใจ แม้อาการหึงหวงแบบหนังภาคก่อนๆจะยังมาสร้างความลำไยอยู่บ้างแต่พอภาคนี้มีการตามล้างแค้นของแจ็ค  ไฮด์ (อีริก จอห์นสัน)เลยทำให้เรื่องราวมีอารมณ์ ทริลเลอร์เรียกค่าไถ่ มีฉากแอ็คชั่น มีการสืบสวนสอบสวน น่าจะทำให้เหล่าหนุ่มๆที่ถูกลากไปดูไม่เซ็งเกินไป ควบคู่ไปกับบทเรียนชีวิตคู่ทั้งการสร้างครอบครัว ความไว้เนื้อเชื่อใจหลังแต่งงาน ที่หนังบอกเล่าได้หนักแน่นดีตามที่บทพอจะเอื้ออำนวยก็ทำให้หนังภาคนี้ไม่เบาบางด้านสาระเหมือนสองภาคก่อนหน้า และแน่นอนว่าภาคนี้ยังคงจัดเต็มเพลงประกอบเพราะๆคลอเคล้าสร้างความโรแมนติกชวนเพ้อฝันได้ดีเช่นเดิม รวมถึงหากวาเลนไทน์นี้ไม่รู้จะสรรหาความแปลกใหม่ของเกมรักอย่างไรดี หนังก็น่าจะเป็นครูที่ดีได้พอสมควรและน่าจะทำให้สาวๆกล้ารุกหนุ่มๆมากขึ้นเพราะภาคนี้ อันนาสเตเชียไม่รู้หิวมาจากไหน เอะอะ ‘ขอยิ้ม’ ตลอดไม่ว่าโกรธ เสียใจ โดยเฉพาะอาการ ‘หิวกลางดึก’ ที่นางทำให้ “ไอศกรีมรสมินต์” เป็นไอเทมสวาทประจำปีได้เลย

 

 

รีวิว - fifty shades freed

 

จุดบอดของหนัง

 

แน่นอนล่ะจากสถิติการเข้าชิงทั้งหนังยอดแย่ และนักแสดงยอดแย่เวทีแรซซี่อวอร์ดก็น่าจะการันตีหายนะด้านการแสดงได้ประมาณหนึ่งแล้ว แต่เอาล่ะ เราจะมองข้ามความสากกะเบือของนักแสดงไปก่อน แล้วไปพูดถึงฉากโจ๊ะพรึมๆแทน (ข้ามไปได้ไงวะเนี่ย ฮ่าาาา) แน่นอนล่ะว่าของเล่นหลายอย่างไม่ได้ถูก ‘รีวิว’ ในหนังสองภาคก่อน ภาคนี้เลยขอจัดเต็มแบบล้างสต็อคทั้งเครื่องสั่น เครื่องสอด ให้พอเสียวๆ แถมยังตัดสลับกับภาพนังอานัสเตเชียนั่งฟินกัดริมฝีปากในออฟฟิศไม่ทำงานมุ่งทำรักอย่างเดียวให้จั๊กกะจี้กันเล่นๆ อ้าว! แล้วฉากเซ็กส์เยอะๆไม่ดียังไงล่ะ- คำตอบก็คือแม้จะมาเยอะ เล่นกันหนักกว่าเดิม แต่ทั้งจังหวะจะโคนที่หนังใส่เข้ามาแบบไร้เหตุผลแถมมาแบบกะปริบกะปรอยอย่างกับฉี่แมวเงี้ยก็ค่อยฟินนักหรอก ยิ่งพระ-นางคู่เดิมเราก็หมดความตื่นเต้นเพราะได้เห็นทั้งคู่อวดเรือนร่างกันมา 2 ภาคแล้วแถมการแสดงของทั้งคู่ในฉากเข้าจังหวะก็ไม่ได้สมจริงอะไรนัก หน้า ดาโกต้า จอห์นสัน ก็ยังเหยเกในองศาเดิม ส่วน เจมี ดอร์แนน ก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกมาทางสีหน้าได้สักฉาก ฮีเลยครางเสียงต่ำๆแทนจนพาลหมดอารมณ์เสียเปล่าๆ

 

แถมจุดที่น่าเสียดายมากในภาคนี้คือการใส่ตัวละคร เจีย แมทเทโอ สถาปนิกจอมแอ๊ว (รับบทโดย เอเรียล แคบเบล ดาราซีรีส์ผมทองสุดเซ็กซี่) เข้ามาในเรื่องในฐานะบทพิสูจน์รักแท้ของคู่รักสกุลเกรย์ แถมในตัวอย่างยังมีฉาก “ตรวจบ้าน” ที่แซ่บด้วยการเชือดเฉือนระหว่างเธอ กับ แอนนาสเตเชีย แต่จนแล้วจนรอดตัวละครอย่าง เจีย กลับโผล่มา 2 ฉากและไม่ได้บทบาทอะไรกับเรื่องเลย ทั้งที่เปิดตัวได้น่าสนใจแถมกลางๆเรื่องยังมีประเด็นว่า หล่อน ไปยุ่มย่ามกับ เอเลียต เกรย์(ลุค ไกรมส์) คนรักของเคต (เอโลอิส มัมฟอร์ด) เพื่อนรักของเธออีกแหนะ แต่ทุกอย่างก็ถูกคลี่คลายอย่างรวดเร็วไม่ได้มีอะไรในกอไผ่เลยจนการมีอยู่ของเธอกลับไร้ความหมายต่อเรื่องราวจนน่าเสียดายเลยทีเดียว

fifty shades freed 3 เต็มเรื่อง พากย์ไทย

 

ถึงแม้ไตรภาคหนังรักแบบโซ่ แส้ กุญแจมือเรื่องนี้จะเริ่มต้นด้วยความเป็นเทพนิยายของหญิงสาวโลกสดใส กับชายหนุ่มมหาเศรษฐีรูปงามผู้หลงใหลในเซ็กซ์แบบ SM แต่เมื่อหนังเดินทางมาถึงการตัดสินใจแต่งงานในท้ายเรื่องของหนังภาคที่ 2 เทพนิยายแสนหวานควรจะจบลงตั้งแต่ตรงนั้น แต่ Fifty Shade Freed สานต่อเรื่องราวจากจุดนั้น

 

สำหรับการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ แน่นอนว่าข้าวใหม่ปลามันอย่างแอนาสเตเซีย (ดาโกต้า จอห์นสัน) และคริสเตียน เกรย์ (เจมี่ ดอร์แนน) พวกเขาอาจจะยังไม่ได้ “ใช้ชีวิต” ร่วมกันแบบจริงๆ จังๆ เหตุการณ์ที่ผ่านๆ มานั้น พวกเขาแค่เรียนรู้พฤติกรรมบางอย่างของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า

 

ชีวิตหลังแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อต่างฝ่ายต่างเริ่มที่จะ “คาดหวัง” ในตัวของอีกคนมากขึ้น คริสเตียนอย่างให้แอนาสเตเซียอยู่ที่เพนท์เฮาส์สบายๆ ใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้านไฮโซ ที่มีสามีหาเลี้ยง (จริงๆ เธออยู่เฉยๆ ก็มีกินเสวยสุขไปทั้งชาติ) แต่เพื่อเติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิต หญิงสาวอย่างแอนาสเตเซียก็เลือกที่จะกลับไปทำงานที่สำนักพิมพ์ในฐานะบรรณาธิการต่อไป ท่ามกลางความเห็นค้านของสามี fifty shades ภาค1

 

เช่นกันฝั่งแอนาสเตเซียก็คาดหวังที่อยากจะมีโซ่ทองคล้องใจกับคริสเตียน เมื่อฝ่ายหญิงอยากจะมีลูก แต่ฝ่ายชายกลับไม่พร้อมเพราะเขาคิดว่าตัวเองนั้นไม่สามารถจะเป็นพ่อที่ดีได้ เขาจึงพยายามบ่ายเบี่ยง เปลี่ยนเรื่องคุยทุกครั้ง

 

ปัญหาชีวิตครอบครัวยังไม่จบ ปัญหาคาราคาซังก็ยังคงหวนกลับมาหลอกหลอน เมื่อแจ็ค ไฮด์ (เอริค จอห์นสัน) นายเก่าของแอนาฯ ตามอาฆาตและพยายามทำลายชีวิตคู่ของทั้งสองในทุกวิถีทาง เพียงเพราะเขามองว่าถ้าหากตัวเขาเองไม่มีความสุข คนที่เขาไม่ได้ครอบครองก็ต้องไม่มีความสุขด้วยเช่นกัน

 

 

รีวิว - fifty shades freed

 

รีวิว – fifty shades freed อุปสรรคเป็นเครื่องพิสูจน์ความรัก

รีวิว – fifty shades freed เรื่องราวอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับคู่พระนางยิ่งกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักของทั้งคู่ไปอีกระดับ หนังภาคนี้ฉากเซกส์จึงให้ความรู้สึกอบอุ่น ขี้เล่น มีเสน่ห์มากขึ้น และในขณะเดียวกันเรายิ่งรู้สึกร่วมไปกับสองตัวละครนี้มากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน (แม้ว่าหนังภาคนี้จะถ่ายทำพร้อมกับตอนภาค 2 ก็ตาม)

 

เมื่อหนังเดินทางมาสู่บทสรุป (ที่คาดเดาไม่ยากเย็นนัก) ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าเหตุการณ์หลังแต่งงานเหมือนจะพยายามดึงผู้ชมให้ก้าวสู่โลกของความเป็นจริง ด้วยการทำให้เราเห็นถึงจุดเริ่มต้นชีวิตคู่ แต่เราอย่าลืมว่า หนังเรื่องนี้ก็ยังวนเวียนอยู่บทความแฟนตาซี ที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเจอคู่แท้แบบคริสเตียน เกรย์ ที่นอกจากจะร่ำรวยเงินทอง หน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์ และเซกส์ที่ชวนตื่นเต้นเร้าใจ   fifty shades ภาค3

 

รีวิว - fifty shades freed

 

 

ความรู้สึกหลังดู

เป็นการจบภาพยนตร์ไตรภาคที่มีสาวๆ ทั่วโลกคอยติดตามได้เป็นอย่างดี และคงทำให้พวกเธอฟินสุดๆ ต้อนรับวาเลนไทน์ แต่ถ้าจะให้พูดถึงแง่ของความซื่อสัตย์ต่อตัวหนังแล้ว เราว่ามันอาจจะมีการบิดเบือนอยู่เล็กน้อย เพราะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ภาพยนตร์ในชุดของ Fifty Shades นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากหนังสืออีโรติก แต่ Freed กลับไม่ได้ดูสยิวสมกับประเภทเท่าที่ควร มันกลับมีความรักที่แสนที่ลึกซึ้งเข้ามาแทนที่ จริงๆ แล้วรู้สึกเลยว่ามันต้องถูกจัดประเภทให้เป็นหนังโรแมนติกถึงจะถูกต้องมากกว่า อย่างไรก็ดี การถ่ายทอดเรื่องราวที่สวยงามทำให้คนดูประทับใจได้ ไม่ว่าทีมงานจะทำหนังถูกหรือผิดคอนเซป ก็นับได้ว่าประสบความสำเร็จในการทำหนังแล้ว

 

 

จากการเข้าชมภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด นั้น พบว่ากลุ่มคนดูส่วนใหญ่เป็นสาวๆ จากรั้วมหาวิทยาลัยและวัยทำงาน ที่รวมกลุ่มกันมาชื่นชมความหล่อเท่ และมัดกล้ามที่เคยเผยเอาไว้ในภาคที่แล้วมีคุณเกรย์ ส่วนผู้ชายเลือกดูหนังเรื่องนี้น้อยมาก และผู้ชายเกือบทุกคนที่มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ มักจะหนีบแฟนมาดูด้วย ปฏิกิริยาของสาวๆ หลังชมภาพยนตร์ค่อนข้างดี แต่ผู้ชายส่วนใหญ่จะหน้านิ่งๆ หลังจากสอบถามแล้วพบว่าฉากในภาพยนตร์อาจจะไม่ถึงพริกถึงขิงสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหนังผู้ใหญ่ที่พวกเขาชมกันตามปกติ    fifty shades ภาค4

 

 

 

เนื่องจากทีมงานผู้ผลิต Fifty Shades Freed ฟิฟตี้เชดส์ฟรีด นั้นทุ่มเทในการทำงาน ฉากสวย โลเกชั่นดี พล๊อตมีความน่าสนใจ เราคาดว่าคุณคงชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่ถ้าคาดหวังว่าจะมาดูฉากร่วมรักโดยเฉพาะ เราบอกได้เลยว่าได้ดูแน่ แต่อาจจะไม่ได้มันหลุดโลก หรือพิสดารอย่างที่คุณจินตนาการเองไว้สักเท่าไหร่นัก

 

 

 

สรุปเลยแล้วกันว่าสำหรับแฟนๆหนังชุด Fifty Shades ในภาคนี้ก็ยังมีทุกอย่างที่น่าจะทำให้ชื่นชอบได้ไม่ยาก แถมพ่วงด้วยอารมณ์ทริลเลอร์ที่พอให้ลุ้นระทึกกันเบาๆ แถมยังติวบทรักพิสดารที่ได้ทั้งโภชนาการจาก ไอศกรีมรสมิ้นต์ และเหล่าเครื่องสอด เครื่องสั่น ต่างๆ แบบล้างสต็อคกันเลยทีเดียว แต่หากคุณไม่ใช่แฟนหนังชุดนี้ เป็นคนโสดเปลี่ยวร้างมานาน หนังเรื่องนี้อาจฆ่าคุณด้วยบทรักหวานๆเลี่ยนๆได้อย่างเลือดเย็นเลยเชียวแหละ

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *