รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

 

เคยมั้ยที่ออกไปซื้อของแล้วเจอคนชนของตกจากชั้นแต่ก็ไม่ยอมเก็บจนเราต้องเก็บเอง ไปจ่ายเงินก็โดนตัดหน้า หลบไปอ่านหนังสือที่ชอบอยู่เงียบ ๆ ก็มีเพศตรงข้ามนิสัยดีมาชวนคุย แล้วไอ้บัดซบนั่นก็สปอยล์หนังสือให้ฟังแล้วก็จากไป ทั้ง ๆ ที่ปักป้ายห้ามเอาสุนัขมาถ่ายที่สนามหญ้าหน้าบ้าน แต่ก็ไม่วายต้องเจอขี้หมาก้อนเบ้อเร้อทุกวัน ซ้ำร้ายสุด ๆ ที่วันดีคืนดีบ้านก็โดนบุกรื้อแถมไอ้โจรกระจอกยังขโมยความทรงจำล้ำค่าอย่างชุดเครื่องเงินของคุณย่าไปด้วยอีกต่างหาก หลายอย่างคืออะไรที่เราน่าจะเจอในชีวิตจริงได้ไม่ยาก และนั่นคือชีวิตของ รูธ ตัวละครชีวิตแสนเคว้งคว้างกลางอวกาศในเรื่องนี้

 

หนังพูดถึงหญิงโสดคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่สถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย เธอรู้สึกหงุดหงิดใจกับผู้คนในสังคมที่ต่างก็เห็นแก่ตัว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอตัดสินใจเรียกร้องอะไรจนกระทั่งบ้านของเธอถูกยกเค้า และเครื่องเงินของคุณยายถูกขโมยไปด้วย เธอจึงตัดสินใจตามหาของของเธอด้วยตัวเอง เพราะตำรวจเองก็ดูมีท่าทีที่ไม่ไยดีกับคดีนี้มากนัก

รีวิวหนัง    

และโดยไม่รู้ตัวเธอก็กำลังพาตัวเองเข้าไปสู่โลกของคนเลว!

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

เรื่องย่อ

เรื่องย่อ I Don’t Feel at Home in This World Anymore (2017) โลกนี้ไม่ใช่ที่ของฉัน เคยไหมที่ออกไปซื้อของแล้วเจอคนชนของตกจากชั้น แต่ก็ไม่ยอมเก็บจนเราต้องเก็บเอง ไปจ่ายเงินก็โดนตัดหน้า หลบไปอ่านหนังสือที่ชอบอยู่เงียบๆ ก็มีเพศตรงข้ามนิสัยดีมาชวนคุย แล้วไอ้บัดซบนั่นก็สปอยล์หนังสือให้ฟังแล้วก็จากไป ทั้งๆ ที่ปักป้ายห้ามเอาสุนัขมาถ่ายที่สนามหญ้าหน้าบ้าน แต่ก็ไม่วายต้องเจอขี้หมาก้อนเบ้อเร้อทุกวัน ซ้ำร้ายสุดๆ ที่วันดีคืนดีบ้านก็โดนบุกรื้อ แถมไอ้โจรกระจอกยังขโมยความทรงจำล้ำค่าอย่างชุดเครื่องเงินของคุณย่าไปด้วยอีกต่างหาก หลายอย่างคืออะไรที่เราน่าจะเจอในชีวิตจริงได้ไม่ยาก และนั่นคือชีวิตของ รูธ (เมลานี ลินสกีย์) ตัวละครชีวิตแสนเคว้งคว้างกลางอวกาศในเรื่องนี้

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

 

 

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore เนื้อเรื่อง

 

ผู้ช่วยพยาบาล รูธ กลับบ้านจากวันทำงานที่แย่ และพบว่าเธอถูกขโมย เธอรายงานกับตำรวจว่าขโมยได้ขโมยยาของเธอ เครื่องเงินของคุณยาย และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เมื่อเธอขอคำแนะนำจากนักสืบวิลเลียม เบนดิกซ์ เขาแค่ตำหนิเธอที่เปิดประตูทิ้งไว้ รูธถามเพื่อนบ้านว่าพวกเขาเห็นอะไรที่น่าสงสัยหรือไม่ หนึ่งในนั้นคือโทนี่โกรธที่มีคนตั้งเป้าหมายเพื่อนบ้าน เมื่อแอพมือถือเปิดเผยตำแหน่งของแล็ปท็อปของเธอ และตำรวจปฏิเสธที่จะทำอะไร เธอขอความช่วยเหลือจากโทนี่

 

รูธและโทนี่ไปที่สถานที่ซึ่งรูธข่มขู่เจ้าของให้คืนแล็ปท็อปของเธอ เขาอ้างว่าเขาซื้อมาจากรั้วที่เปิดร้านขายต่อ รูธและโทนี่ไปสำรวจร้านในเช้าวันถัดมา ซึ่งพวกเขาพบเครื่องเงินที่ถูกขโมยไปและผู้ชายที่มีรองเท้าตรงกับรอยพิมพ์ที่เหลืออยู่ในบ้านของเธอ รูธทะเลาะกับเจ้าของเมื่อเขาขอให้เธอจ่ายค่าเครื่องเงินที่ขโมยมา หลังจากที่เขาหักนิ้วของเธอ โทนี่ก็เคาะเขาหมดสติและพวกเขาก็หนีไป

เว็บดูหนัง   

โทนี่ได้บันทึกหมายเลขทะเบียนรถไว้บนรถตู้ของหัวขโมยแล้ว ได้ค้นคว้าและพบว่าได้จดทะเบียนกับคนที่ชื่อ Christian Rumack แล้ว รูธและโทนี่ปลอมตัวเป็นตำรวจตามที่อยู่ของรถตู้ โดยที่ผู้หญิงชื่อเมเรดิธปล่อยให้พวกเขาเข้าไปข้างใน เธอเปิดเผยว่าเจ้าของรถตู้ คริส สามีของเธอไม่ใช่คนที่ใช้รถตู้ แทนที่จะเป็นลูกเลี้ยงของเธอซึ่งได้รับรถตู้จากพ่อของเขา Chris Senior กลับบ้านอย่างกะทันหันพร้อมกับ Cesar ผู้คุ้มกันของเขา รูธกล่าวว่าเธอเพียงต้องการเผชิญหน้ากับคริสเตียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา แต่คริสก็เยาะเย้ยเธอในเรื่องอุดมคตินิยมและไล่พวกเขาออกไป ขณะที่พวกเขาจากไป รูธก็ขโมยผลงานศิลปะสนามหญ้าจากคริสและเมเรดิธ โทนี่ไม่แยแสกับพฤติกรรมของรูธจึงกลับบ้าน ปล่อยให้รูธอยู่คนเดียว

 

คริสเตียนและเพื่อนของเขา มาร์แชลและเดซ เฝ้ามองจากด้านข้าง ยุติการโจรกรรมที่ตั้งใจไว้ของคริส พวกเขาส่งคริสเตียนไปเผชิญหน้ากับรูธเกี่ยวกับสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับพวกเขา เขาทำให้เธอประหลาดใจในบ้านของเธอ และเธอก็ทุบหลอดลมของเขาเพื่อป้องกันตัว ขณะที่เขาเดินโซเซไปบนถนน รถบัสก็ชนและฆ่าเขา มาร์แชลและเดซลักพาตัวรูธ บังคับให้เธอเข้ามาแทนที่คริสเตียนในการปล้น รูธพาพวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์ โดยที่เมเรดิธและซีซาร์ถูกจับที่จ่อปืนและบอกให้เรียกคริส การสู้รบเกิดขึ้น ในระหว่างที่โทนี่มาช่วยรูธและได้รับบาดเจ็บสาหัส ซีซาร์ คริส และเดซถูกฆ่า และเมเรดิธก็หนีไป รูธและโทนี่หนีเข้าไปในป่าหลังคฤหาสน์ โดยมีมาร์แชลอยู่ข้างหลัง รูธซ่อนโทนี่ไว้ใต้ใบไม้ แล้วโจมตีมาร์แชลด้วยการขว้างก้อนหินใส่เขารองเท้าหนังนิ่มน้ำ . ด้วยความตื่นตระหนกที่เธอไม่สามารถหาโทนี่ได้ระหว่างทางกลับ รูธเห็นวิญญาณของคุณยายชี้ให้เธอไปในทิศทางที่ถูกต้อง

 

รู้สึกขอบคุณที่รูธช่วยชีวิตเธอไว้ เมเรดิธละเลยที่จะระบุว่าเธอเป็นหนึ่งในหัวขโมยของเบนดิกซ์ รูธกลับสู่ชีวิตประจำวันของเธอกับโทนี่ ผู้ซึ่งรอดชีวิตจากบาดแผลของเขา

 

 

หนังเล่นประเด็นความดีความเลวอย่างน่าสนใจ เริ่มจากนางเอกที่รู้สึกว่าผู้คนในโลกนี้ล้วนแล้วแต่ห่วยแตกและเห็นแก่ตัว จนกระทั่งเธอได้พบกับโทนี่ซึ่ง “เคย” เป็นหนึ่งในคนที่เธอมองว่าห่วยแตก เพราะว่าปล่อยหมาไปขี้หน้าบ้านเธอ แต่ต่อมาก็เป็นโทนี่นี่เองที่ช่วยเธอในการตามหาของและคนที่ขโมยมันไป และไม่เพียงแต่โทนี่เท่านั้น ระหว่างทางเราก็จะเห็นการตัดสินถูกผิดดีเลวอยู่เสมอ และหนังก็เผยแง่มุมบางอย่างที่ที่ทำให้เราเห็นถึงที่มาที่ไปของการกระทำที่เรามองว่าเลว ซึ่งแม้ว่าอาจจะเป็นมุมมองที่ง่ายๆสักหน่อยก็ตาม แต่มันก็ช่วยทำให้เราฉุกคิดถึงความดีความเลวในมุมมองที่เราจะตัดสินมากขึ้น

 

และยิ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งตัวเราเองกลายเป็นคนที่ข้ามเส้นไปทำในสิ่งที่เราก่นด่าสาบแช่งผู้อื่น เราก็จะยิ่งเห็นเส้นทางของความเลวร้ายชัดขึ้น ว่าคนคนหนึ่งก้าวข้ามไปสู่พฤติกรรมผิดๆได้อย่างไร

 

หนังกำกับโดยพระเอก Blue Ruin ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของเขา และอย่างที่คาดไว้ตั้งแต่ตอนดูหนังตัวอย่าง คือหนังมีกลิ่นของ Jeremy Saulnier อยู่มากทีเดียว ทั้งบรรยากาศกดดันตึงเครียด และฉากดิบๆโหดๆ สมจริง แต่สิ่งที่ Macon Blair ทำคือลดดีกรีความขึงขังและเพิ่มอารมณ์ขันเข้าไปซึ่งถือว่าผสมกันได้ดีทีเดียว โดยรวมถือว่าสนุกใช้ได้เลย (และจริงๆแล้วหนังมันไปชนะรางวัลแกรนด์จูรี่ไพรซ์ของซันแดนซ์ 2017 มาด้วยนะ)

 

 

 

 

นี่คือหนังที่ชนะรางวัลใหญ่สุด Grand Jury Prize: Dramatic ของเทศกาลหนังอินดี้อเมริกันที่กลายเป็นเทศกาลระดับโลกไปแล้วอย่าง Sundance Film Festival 2017 ซึ่งเพิ่งจัดไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นี่คือหนังที่คว้าคะแนนจากเว็บมะเขือเน่า Rottentomatoes ไปได้ถึง 90% ที่คะแนนเฉลี่ย 7.4/10 สอดคล้องกับคะแนน Metascore ที่ 75/100 และ 7/10 จาก IMDB เอาเป็นว่านักวิจารณ์เห็นพ้องไปในแบบว่าหนังดูสนุก และค่อนข้างน่าประทับใจล่ะ

เป็นการกลับมาเห็นหน้าเห็นตากันอีกครั้งกับพ่อฮอบบิทน้อยอย่าง เอไลจาห์ วูด ที่จริง ๆ มีหนังเล่นทุกปี แต่กลับไม่ค่อยดังนัก

เป็นหนัง Netflix Original จึงมีแบบซับไทยให้ดูใน Netflix เรียบร้อย

 

รีวิว  Don’t Feel at Home in This World Anymore

ก็ตามที่บอกไปความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ทั้งหมดทั้งมวลมาจากการที่มันสามารถคว้ารางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังอย่าง Sundance 2017 มาได้ ซึ่งเวทีนี้ก็ได้ให้กำเนิดหนังอินดี้เจ๋ง ๆ มามากมาย อย่างเช่น Memento, Once, Before Sunrise, Saw, The Blair Witch Project, The Usual Suspects, (500) Days of Summer, Whiplash เป็นต้น และในปีนี้ก็ยังมีหนังอย่าง Get Out ที่เพิ่งออกจากโรงบ้านเราไปฉายเปิดตัวด้วย ส่วนผู้กำกับหลายคนได้ผันมาทำหนังในสตูดิโอใหญ่ก็เพราะเวทีนี้เช่นกัน อย่าง เทพ Christopher Nolan ก็เกิดจากเวทีนี้เช่นกัน ดังนั้นหนังเรื่องไหนคว้าแสงไฟให้จับตัวเองในเทศกาลนี้ได้มากก็มีสิทธิ์ต่อยอดไปในอนาคตสูงเช่นกัน

 

หนังชื่อยาวอย่าง I Don’t Feel at Home in This World Anymore นี้ก็เช่นกันครับ นับเป็นผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องแรกของ เมคอน แบลร์  ที่น่าจะฉายแววดังในเวลาอันใกล้ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหนังที่เป็นแบบตลกร้าย แต่ดันสะท้อนภาพชีวิตได้สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะผ่านสายตาสาวโสดบ้าน ๆ แบบ รูธ (เมลานี ลินสกีย์) ที่ชีวิตถึงกับตั้งคำถามว่า ถ้าฉันตายไปก็คงกลายเป็นแค่คาร์บอนที่ไม่มีอะไรให้จดจำ นั่นคงเป็นความรู้สึกที่กลายมาเป็นชื่อหนังนี่เองครับ จะว่าโชคดีหรือร้ายไม่ทราบได้เพราะการที่เธอถูกยกเค้านั้น สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเธอไปอย่างที่ไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่การตัดสินใจเลิกพึ่งตำรวจที่ไม่เคยสนใจคดีบ้าน ๆ แล้วเริ่มออกไปคุยกับเพื่อนบ้านที่ไม่เคยแม้แต่จะทักกันเพื่อหาเบาะแส ได้เจอกับเพื่อนที่แม้จะเพี้ยน ๆ แต่กลับมีใจรักความยุติธรรมแบบบริสุทธิ์อย่าง โทนี่ (เอไลจาห์ วูด) ซึ่งกลายมาเป็นคู่หูออกตามล่าตัวโจรกัน

 

โดยหนึ่งในโจรนั้นก็มีนักแสดงอย่าง เจน เลวี่ ที่เพิ่งมีบทนำในหนังอย่าง Don’t Breathe มา แต่จากบทเหยื่อในเรื่องนั้นเธอกลับมาพลิกรับบทโจรผู้ล่าในเรื่องนี้แทน ส่วนดาราสมทบคนอื่น ๆ ก็มาจากสายหนังอินดี้บ้าง สายซีรีย์บ้างอาจพอคุ้นตาบางคนครับ

 เว็บหนัง  

 

หนังโดดเด่นในเรื่องของบทที่ตลกร้าย และยียวนผู้ชมในหลาย ๆ สถานการณ์ แม้จะไม่ได้ฮาก๊ากอะไรแบบนั้น แต่ก็ทำให้เรื่องราวชวนหัวของการก่ออาชญากรรมนี้ดูเพลินดูง่าย ไม่หนักหัวจนเกินไปครับ โดยเฉพาะฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องนี้ ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับหนังฮอลลีวู้ดทั่วไปฉากพวกยิงกันเลือดสาดในเรื่องนี้อาจดูธรรมดา แต่กระนั้นพอความรุนแรงระดับนี้มาอยู่ในหนังเบาสมองเรื่องนี้มันกลายเป็นความสะใจได้แปลกพิกลทีเดียว จริง ๆ หนังค่อนข้างสะท้อนภาพชีวิตคนเมืองที่เหว่ว้าและรู้สึกไร้คุณค่าได้อย่างสมจริงมาก ๆ จนเรารู้สึกเลยว่าบางทีตัวเอกอาจเป็นเราเองก็ได้ ปัญหาจากคนรอบข้างที่ละเลยระเบียบมารยาท เฉยชาไม่ใส่ใจกันและกันแม้จะเป็นหน้าที่อย่างตำรวจหรือแม้แต่ญาติ ๆ กันก็ตาม เหล่านี้ต่างหากที่เป็นศัตรูตัวร้ายยิ่งกว่าโจรที่มาบุกบ้านเสียอีก หนังทิ้งทางลงท้ายเรื่องไว้ได้แบบตามสูตรสวยงาม ดูจบแล้วอารมณ์ดีครับ

 

 

สรุป

 ดูหนัง

หนังดราม่า อาชญากรรม และตลกร้าย ที่นอกจากความบันเทิงสไตล์ที่คอดาร์คคอเมดี้จะต้องชอบ แล้วหนังยังเย้ยหยันชีวิตจริงแสนธรรมดาแสนน่าเบื่อของมนุษย์โลกได้อย่างเจ็บแสบ หนังเดินเรื่องจากเรื่องเล็ก ๆ ก่อนจะบานปลายกลายเป็นระเบิดก้อนโตของตัวละครได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่แปลกมากตรงเรารู้สึกเชื่อว่ามันเป็นไปได้ ทั้ง ๆ ที่หนังออกจะแฟนตาซีพอสมควรเลย และแม้โปรดักชั่นจะจัดอยู่ในระดับทำได้ดีของสายอินดี้ แต่ก็ไม่ได้ดีขั้นสุดยอดแบบพวกหนังสตูดิโอยักษ์ใหญ่ ต้องยกความดีความชอบให้การสร้างบทและตัวละครที่เหมือนมนุษย์จริงมาก ๆ และน่าสนใจโคตร ๆ นี้ล่ะนะ คิดว่าคงต้องจำชื่อตา เมคอน แบลร์ ผู้กำกับเรื่องนี้ไว้เผื่อ ๆ แล้วสิ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *