รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

 

แค่จินตนาการว่าต้องใช้ชีวิตแบบปิดตา ไร้การมองเห็น แค่คิดก็อึดอัดจะแย่ หลังจากที่เราต้องอึดอัดกับภาพยนตร์ที่ตัวละคร “ห้ามพูด ห้ามส่งเสียง” อย่าง The Quiet Place กันมาแล้ว ในปีนี้ Netflix ก็ปล่อยภาพยนตร์พล็อตสุดแปลกมาเป็นการ “ห้ามมองเห็นไม่งั้นตาย” แทน ด้วยความน่าสนใจนี้ ตามมาด้วยข้อสงสัยหลายประการว่า เรื่องนี้จะเป็นไปในทิศทางใด จะใช้ชีวิตอย่างไร และทำไมต้องห้ามไม่ให้เห็น

 

 

Bird Box หนังที่จะทำให้คุณไม่กล้าลืมตา เพราะถ้ามองเห็นคุณจะต้องตาย ทำเอาลุ้นกันทั้งเรื่อง และชวนคิดว่า ถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เราจะใช้ชีวิตรอดไหมนะ ? เมื่อโลกของเราจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์การฆ่าตัวตายอย่างไร้สาเหตุ หลังจากการมองเห็นพลังงานลึกลับที่คุณก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้าคุณมองมัน คุณจะต้องตาย

 

 

5 ปีต่อมาหลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น มนุษย์ที่เหลือรอดมีแค่คนกลุ่มๆ หนึ่ง และหนึ่งในนั้นคือ มาร์ลอรี่ เธอพยายามเอาชีวิตรอดพร้อมกับใช้ชีวิตอยู่กับลูกอีกสองคนของเธอที่บ้านริมน้ำ เธอรอวันที่โอกาสเหมาะสมเพื่อที่เธอจะได้หนีออกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย หลังจากที่ได้รับสัญญาณวิทยุว่ามีสถานที่ลี้ภัยซึ่งปลอดภัยแน่นอน แต่ด้วยระยะทางกว่า 20 ไมล์ ที่มาร์ลอรี่และลูกๆ จะต้องปิดตาและล่องเรือไปในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เธอต้องใช้สัญชาตญาณ ตัวเธอเองและเสียงรอบข้างในการพิจารณาอันตรายที่คืบคลานเข้ามา แต่ถ้าหากว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว นั่นคือจุดจบ! เท่ากับว่าเธอจะต้องตาย

 เว็บหนัง 

 

ในระหว่างเดินทางกลับจากโรงพยาบาล มาโลรี่ (แซนดรา บูลล็อค) สาวท้องแก่ต้องเผชิญความน่าสะพรึงกลัวของการระบาดจากไวรัสพันธุ์ใหม่ที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย โชคยังดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือจากคนกลุ่มหนึ่งนำโดย เกร็ก (บีดี หว่อง) ชายใจกว้างผู้พร้อมเปิดรับผู้ประสบภัยทุกคน และ ดักลาส (จอห์น มัลโควิช)สถาปนิกเห็นแก่ตัวผู้สูญเสียภรรยาที่ออกไปช่วย มาโลรี่ พวกเขาต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและต้องรักษาพื้นที่มั่นไว้โดยต้องปิดแสงจากหน้าต่างทุกบาน เพราะการมองเห็นอาจหมายถึงการต้องจบชีวิต แล้วมาโลรี่และลูกในท้องจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไรต้องติดตาม

 

Bird Box ถือเป็นงานที่ Netflix ภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง โดยผมได้รับเชิญไปชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาก่อนจะลงสตรีมมิงวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าการได้ชมหนังบนจอของโรงภาพยนตร์ทำให้เราได้รับประสบการณ์ร่วมจากหนังได้อย่างเต็มที่จริงๆแต่หากเราพิจารณาจากตัวเนื้อหาก็คงต้องบอกว่า หนังเองดูจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบหนังดราม่ามากกว่าคอหนังทริลเลอร์ที่หวังความตื่นเต้นในการเอาชีวิตรอดของมาโลรี่ เพราะด้วยวิสัยทัศน์ของ ซูซาน เบีย ที่เคยกำกับ In a better world หนังออสการ์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเดนมาร์คก็ย่อมคุ้นเคยกับการมองโลกและสังคมอย่างลึกซึ้ง

 

 

 

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น เนื้อเรื่องย่อ

 

เรื่องเริ่มต้นจากการไปพบแพทย์ตรวจครรภ์ของราโวลี่กับน้องสาวของเธอที่อาสาขับรถมาส่ง ราโวลี่ไม่เคยออกจากบ้านและไม่เคยสนใจพฤติกรรมการฆ่าตัวตายของคนที่เป็นตามข่าว จนมาถึงตอนกลับบางสิ่งเริ่มมาเกิดขึ้นต่อหน้าราโวลี่ เธอจึงรีบบอกน้องว่ามันมาถึงเมืองเราแล้วเราต้องรีบขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุด

 

 

และแล้วน้องสาวของเธอก็เปลี่ยนไปทำรถที่เธอขับชนจนพลิกหงายท้อง  แล้วก็เปิดประตูรถออกไปยืนให้รถชน ราโวลี่ได้สติหยุดเสียใจและต้องรีบหาที่หลบภัย เธอวิ่งมาล้มที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง แล้วก็มีคนมาช่วยพาเธอเข้าไปในบ้านหลังนั้น มีหลายคนที่หลบอยู่กันที่นั่น และรู้วิธีที่จะรอดทางเดียวคืออย่ามองออกไปข้างนอก ถ้าเห็นคือตาย เธอและพวกเขาจะมีชีวิตรอดจากเหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้ได้ไหม ไปร่วมเอาใจช่วยเธอกันได้ใน Bird box มอง อย่าให้เห็น รับชมได้ใน Netflix นะครับ

 

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

 

ในภาวะที่โลกไม่เหลืออะไรเลย แต่ความเป็นแม่ยังคงอยู่

 

เพราะเรื่องนี้ “มาโลรี่” นางเอกของเราเป็นคุณแม่ที่ต้องดูแลเด็กถึงสองคน คุณแม่ที่ไม่ได้เพอร์เฟ็คแต่ต้องการดูแลลูกให้ดีที่สุด ด้วยความกลัวและความกังวลทำให้เธอต้องเข้มงวดและแข็งแกร่ง จนลืมไปว่ายังไงเด็กก็คือเด็ก แต่เชื่อเถอะว่าทุกการกระทำของมาโลรี่นั้นมีเหตุผล แม้ในตอนแรกเธอดูเหมือนว่าไม่อยากมีลูก ไม่อยากผูกพันกับเด็ก แต่ท้ายที่สุดเธอก็ต้องการดูแลเด็กให้ดีที่สุด และต้องการให้เด็กๆ มีชีวิตรอดจึงพร่ำบอกพร่ำสอนถึงการเอาตัวรอด ให้เด็กวัย 5 ขวบ ที่แทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย ในหนังเราจะไม่ค่อยได้ยินบทพูดจากเด็กเท่าไร แต่เมื่อได้บทพูดขึ้นมาเมื่อไร ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความน่ารักและบริสุทธิ์ แต่แฝงไปด้วยความดราม่าเบาๆ

 

 

 

เคยได้ยินคำกล่าวว่า มนุษย์มักกลัวสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ มันอาจใช้ได้กับหนังเรื่องนี้ ที่มนุษย์มักกลัวสิ่งที่เรามองไม่เห็น และจินตนาการความน่ากลัวนั้นไปเอง แม้มองไม่เห็นด้วยตาแต่ก็สัมผัสได้

 

ส่วนในแง่ของการนำเสนอความน่ากลัว หนังทำออกมาทำให้เราลุ้นใจเต้นตุบๆ ไปกับตัวละคร สถานการณ์ที่บีบบังคับ จังหวะ และองค์ประกอบต่างๆ สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมแบบเราอย่างมาก ยิ่งฉากการไล่ล่าและการวิ่งหนีคือมีความครีเอท ทำให้เรารู้สึกถึงความน่ากลัวของสิ่งประหลาดนี้ แต่ตัวหนังก็ไม่ได้เฉลยถึงที่มาที่ไปแต่อย่างใดนะ เพราะจะมุ่งประเด็นไปที่การเอาตัวรอดในแบบที่ต้องปิดตาสู้

 

 

 

ส่วนนักแสดง “มาโลรี่” รับบทโดย แซนดรา บูลล็อค และมีนักแสดงสมทบชื่อดังอีก อย่าง ซาราห์ พอลสัน, จอห์น มัลโควิช และ บีดี หว่อง ซึ่งส่วนใหญ่ตัวหนังจะเทให้กับนักแสดงนำหลักอย่าง แซนดรา ซึ่งเธอก็เอาบทนี้อยู่หมัดจริงๆ ส่วนนักแสดงเด็กบอกเลยว่าได้ใจเรามาก น่ารักและแอบมีมุมน่าสงสารอยู่ด้วย

เว็บดูหนัง  

 

ส่วนที่ดูแล้วชอบ คือการที่หนังเล่าเรื่องปัจจุบัน สลับกับเล่าเรื่องในอดีต แล้วเส้นเรื่องก็มาบรรจบกันที่ปัจจุบันอีกที ซึ่งทำให้เราเบรคความตื่นเต้นลงไป ได้พักหายใจบ้าง ความเห็นส่วนตัวคือกราฟของเรื่องมีจังหวัดขึ้นลงที่ดีมากๆ อุปสรรคต่างๆ ค่อยๆ เพิ่มมาเป็นระยะ แต่ก็ค่อนข้างเดาทางง่ายนิดนึง ส่วนที่ไม่ชอบคือความที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีการเฉลยปมบางอย่าง แต่คิดว่าคงเป็นเพราะการไม่เฉลยนี่แหละ ทำให้หนังมีจุดเด่น (รึเปล่า)

 

 

 

การแสดงของนักแสดง

 

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

เรื่องนี้นักแสดงทุกคนเล่นได้ดีพอกันหมด คือแต่ละคนก็มีบทเด่นที่สำคัญในเรื่อง แต่หนังก็ยกเนื้อเรื่องช่วงท้ายให้กับแซนดร้าที่ต้องล่องเรือออกไปกับเด็กเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งในส่วนตอนเเม่น้ำนี้มันน่าอึดอัดมากที่เธอแสดงให้เราเห็นว่าเธอเป็นห่วงเด็กน้อยมากขนาดไหน คนนึงก็ลูกเธอ ส่วนเด็กอีกคนก็เกิดมาพร้อมลูกเธอและเลี้ยงมาด้วยกัน เธอแสดงว่าจะเสียคนใดคนนึงไปไม่ได้ทำให้เธอแสดงได้ถึงอารมณ์จริง ๆ

 

การนำเสนอตัวละครผู้หญิงที่ต้องเผชิญความโหดร้ายเพื่อก้าวผ่านไปสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ที่อาจทำให้เราดูหนังด้วยความอึดอัดไม่สบายใจเท่าใดนัก

 

ซึ่ง Bird Box ก็ออกมาในแนวทางที่เธอถนัด เพราะการให้ มาโลรี่ เป็นคนท้องก็ยิ่งแสดงให้เห็นภาวะที่ผู้หญิงต้องเผชิญกับสารพันมรสุมชีวิตเพื่อให้กำเนิดชีวิตใหม่ยิ่งมาโลรี่ ต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ยิ่งทำให้เห็นความแข็งแกร่งของผู้หญิงในการเผชิญโลกอันโหดร้ายได้อย่างเห็นภาพ ซึ่งหนังก็โหดร้ายมากพอที่จะโยนอุปสรรคในการเอาชีวิตรอดให้ตัวละครทั้งการต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตแบบมองอะไรไม่เห็นแถมยังมีคนติดเชื้อไวรัสซ่อนอยู่อีก

 

 ดูหนัง

หรือกระทั่งการที่ต้องใช้ชีวิตหลบภัยในบ้านแบบไว้ใจใครก็ตามที่มาเคาะประตูบ้านไม่ได้เลยก็ยิ่งทดสอบระดับมนุษยธรรมของตัวละครได้อย่างหนักหน่วงขึ้นไปอีก ซึ่งการมีตัวละครนำเป็นผู้หญิงก็ย่อมได้คะแนนความเห็นใจจากคนดูไม่ยากนัก แต่ที่ต้องชื่นชมจริงๆคือการที่หนังไม่ได้ให้ มาโลรี่ เป็นตัวละครแบนๆ เพราะเธอเองก็มีดีมีชั่วมีด้านมืดที่ต้องเอาชนะเพื่อความอยู่รอดของลูกๆของเธอ โดยจุดที่หนังสร้างความมืดหม่นสิ้นหวังมากๆคือการที่มาโลรี่ ไม่ยอมตั้งชื่อลูกของตัวเองเพียงเพราะไม่ต้องการสร้างความผูกพันหากเธอไม่สามารถเอาตัวรอดจากโลกาวินาศในครั้งนี้ได้ รวมถึงหนังยังมีฉากที่แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความเมตตาปราณีก็นำมาซึ่งหายนะอันใหญ่หลวงได้เหมือนกัน ซึ่งทำให้หนังสามารถตั้งคำถามกับความเป็นมนุษย์ได้อย่างลุ่มลึกอีกด้วย

 

 

แต่ก็อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่าการที่หนังเน้นไปในทางดราม่าส่วนใหญ่ก็ส่งผลให้บางฉากที่หนังสามารถทำให้ตื่นเต้นได้ หนังก็กลับเพิกฉายในการสร้างความตื่นตระหนกไม่ไว้ใจ ทั้งที่มันอาจช่วยให้ตัวหนังเข้าถึงคนดูวงกว้างได้มากขึ้นจนอดเสียดายไม่ได้ว่าการที่หนังมีฉากหลังเป็นโลกล่มสลายและมีไวรัสแพร่ระบาดแต่คนดูกลับไม่ได้สัมผัสมันจากกลวิธีทางภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้แต่อย่างใดจนทำให้กราฟในการดูหนังเรื่องนี้อาจมีตกบ้าง แต่ก็ยังคงคุ้มค่าที่จะดูเพื่อความบันเทิงอยู่นะ แม้ไอเดียโลกล่มสลายของหนังดูจะคล้าย The Happening (2008) ผสมกับ The Quiet Place (2018) ไปหน่อยก็ตาม

รีวิว Bird Box มองอย่าให้เห็น

 

กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าการแสดงของ ซานดร้า บูลล็อค สามารถชดเชยทุกข้อด้อยของหนังได้จริงๆ โดยแม่แสงดาว บุญล้อม นอกจากจะยังสวยสะพรั่งในวัย 50 แล้วเธอยังสามารถทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงความกลัวของผู้หญิงคนนึงที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอดและเรียนรู้ความเป็นแม่ในภาวะวิกฤติของโลก เธอทำให้เราเข้าใจในน้ำหนักปัญหาของมาโลรี่ได้อย่างแจ่มชัดทั้งการแบกความรู้สึกผิดจากการเอาตัวรอดแต่ต้องแลกด้วยชีวิตของน้องสาวตัวเองหรือภรรยาของดักลาส ก่อนที่จะตัดสินใจสู้กับวิกฤติเพื่ออีก 2 ชีวิตได้อย่างน่าเอาใจช่วยจริงๆ

 

 

ความคิดเห็นหลังดูจบ

หนังเล่นประเด็นกับ “ความกลัว” ในสิ่งที่มนุษย์ “มองไม่เห็นและไม่รู้จัก” ได้อย่างน่าสนใจมากและดูแปลกดี เพราะตลอดทั้งเรื่อง ทั้งตัวละครและคนดู จะไม่ได้เห็นและไม่ได้รู้เลยว่า อะไรสิ่งที่เข้ามาทำร้ายผู้คนเลย

 

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ แตกต่างจากหนังแนวเอาตัวรอดเรื่องอื่นๆ ก็คือ วิธีการเล่าเรื่อง หนังใช้วิธีการเล่าเรื่องสลับกันระหว่างเหตุการณ์ในช่วง 5 ปีก่อนที่มนุษย์เริ่มถูกโจมตี กับเหตุการณ์ในช่วงปัจจุบัน ที่เธอกำลังเดินทางไปยังสถานที่ที่ได้ข่าวมาจากทางวิทยุสื่อสาร

 

 

จุดเสียอย่างหนึ่งคือ มิติของตัวละคร ที่แบนราบซะเหลือเกิน รวมถึงการกระทำหลายๆ อย่างก็ดูไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลซะเท่าไหร่

 

รีวิวหนัง   

โดยรวม หนังทำออกมาได้กลางๆ คือจะบอกว่าสนุกก็ใช่ แต่จบแล้วก็จบไป ไม่ได้มีอะไรให้ประทับใจ เพราะเราก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับตัวละครเลย และที่สำคัญคือ หนังก็ไม่ได้สรุปหรือเฉลยเรื่องราวอะไรให้เราได้เข้าใจเลยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่

 

 

จุดเด่น

หนังนำเสนอบทบาทของผู้หญิงได้อย่างลึกซึ้ง   แม่แสงดาว บุญล้อม คือสวยตาแตก เล่นดีมาก   หนังนำเสนอวิกฤติโลกล่มสลายได้น่ากลัวดี

 

 

จุดสังเกต

ไอเดียเรื่องโลกล่มสลายไม่แปลกใหม่นัก  หนังมีหลายช่วงที่ทำให้ตื่นเต้นได้ แต่กลับนำเสนอแบบผ่านๆ

 

 

สรุปเลยดีกว่าว่า 2 ชั่วโมงเต็มอิ่มเป็นเวลาที่คุ้มค่าแก่การดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งใน 2 ชั่วโมงนี้ จะได้พบกับความอึดอัดและความกดดันในอีกรูปแบบ ยังต้องลุ้นและเอาใจช่วยไปกับตัวละคร แถมยังต้องหลอนกับสิ่งประหลาดที่มาก่อกวน ต้องบอกว่าครบทุกอารมณ์ ในตอนจบบางคนอาจรู้สึกผิดหวังกันบ้างก็ต้องแล้วแต่บุคคลไป

 

ยังแอบคิดอยู่ว่าถ้าทำออกมาเป็นหนังในโรงภาพยนตร์คือต้องอึดอัดและได้อรรถรสมากกว่านี้แน่ๆ ถึงแม้หนังจะดูไม่มีเหตุผลในตัวของมัน แต่ก็นำเสนอการเอาตัวรอดของแม่ลูกออกมาได้ดี นำเสนอตัวตนของมนุษย์แม่ออกมาได้อย่างฉลาด  ลงทุนกับ Netflix

 

 

ความประทับใจในหนัง

 

เรื่องนี้สนุกตื่นเต้นน่าติดตามตลอด ดูไปลุ้นไปด้วยความที่เป็นหนังที่ต้องปิดตามันเลยทำให้อึดอัดตามไปด้วย และก็ไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรที่ทำให้คนกลายเป็นแบบนั้น ก็ได้แต่คอยระทึกในฉากที่หวาดเสียวที่หนังใส่เข้ามาให้คนชมลุ้น แต่ในทรรศนะของผู้เขียนนะครับชอบฉากที่หลบอยู่ในบ้านมาก มีตัวแสดงหลายคน ช่วยกันคิดหาวิธีรอด ทำให้เดาทางไม่ถูกว่าคนในบ้านกับสิ่งลี้ลับนอกบ้านสิ่งไหนน่ากลัวกว่ากัน

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกดีเลยทีเดียวนะครับ อาจจะมีขัดใจบ้างนิดหน่อย แต่ก็ให้อภัยได้ตามสไตร์หนังต่างประเทศเขาล่ะ แทบทุกเรื่องมักเป็นเช่นดี แต่รวม ๆ แล้วก็สนุกตื่นเต้นดีเลย สยองขวัญสั่นประสาทคนดูได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน ใครที่ยังไม่ได้ชมก็ไปหาชมกันได้ใน Netflix นะครับเพราะเขาทำมาสำหรับดูทางนี้เท่านั้น

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *