รีวิว Army of Thieves

รีวิว Army of Thieves

รีวิว Army of Thieves

รีวิว Army of Thieves เนื้อเรื่อง

ผลงานต่อยอดความสำเร็จของ แซ็ก ชไนเดอร์ ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจาก Zack Snyder’s Justice League แล้วก็มี Army of the Dead ตามมาติด ๆ ซึ่งก็ยังคงประสบความสำเร็จ เพราะสร้างยอดผู้ชมให้ Netflix ได้มากถึง 75 ล้านวิว นับเป็นการกลับมาทำหนังซอมบี้ครั้งแรกในรอบ 17 ปีของชไนเดอร์ และการกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ใช่การกลับมาแบบฉาบฉวย ทำแค่เรื่องเดียวจบ แต่ชไนเดอร์สร้างจักรวาลซอมบี้ของตัวเองขึ้นมาใหม่เลย ด้วยการสร้างสรรค์เหตุการณ์ฉากหลังและตัวละครขึ้นมาใหม่ 10 กว่าคน แม้จะเป็นหนังที่มีตัวละครมากมายแย่งเวลากันปรากฏตัวบนจอ ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 28 นาที แต่หนึ่งในตัวละครที่มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และสามารถทำให้คนดูชื่นชอบและจดจำเขาได้ นั่นก็คือ ดีเทอร์ นักสะเดาะเซฟมือฉมังชาวเยอรมัน ที่ชไนเดอร์ก็มองเห็นแววว่า แมทเธียส ชเวกโฮเฟอร์ (Matthias Schweighöfer) นักแสดงผู้นี้ไม่ธรรมดาและสามารถต่อยอดความสำเร็จต่อไปได้อีก จึงเป็นที่มาของ Army of Thieves หนังภาคแยกที่เล่าเรื่องราวก่อนหน้าของดีเทอร์ ว่าเป็นมาอย่างไรก่อนจะมาร่วมทีมฝ่าฝูงซอมบี้อย่างที่ได้ผ่านตากันไปแล้ว

รีวิว Army of Thieves

 

เรื่องนี้เป็นผลงานเขียนบทของ Shay Hatten ผู้เขียนบทในภาคก่อน โดย Zack Snyder ไม่ได้กำกับ แต่เป็น Matthias Schweighöfer นักแสดงที่เล่นเป็นนักเจาะตู้เซฟในภาคก่อนมากำกับแทนควบกับแสดงนำเองด้วย เป็นเรื่องราวช่วงเวลาก่อนหน้าของภาคเวกัส และมีซอมบี้ระบาดเรียบร้อยแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งตัวละครนักเจาะเซฟชาวเยอรมันนี้ยังเป็นแค่ยูทูบเบอร์โนเนมที่ไม่มีใครสนใจวิดีโอเจาะเซฟที่เขาลงไว้ จน “เกวน” หญิงสาวปริศนาที่เป็นหัวหน้าทีมปล้นตู้เซฟธนาคารระดับโลกมานำเสนองานนี้ให้เขา พร้อมทั้งเรื่องราวของตู้เซฟในตำนานทั้ง 5 ที่เป็นตำนานความฝันของนักเจาะเซฟทั่วโลกที่ต้องการเปิดมันให้ได้

 ดูหนัง

เรื่องนี้ก็ยังมาในแนวหนังตลกผสมแอ็กชั่น+อาชญากรรมรวมทีมปล้นคล้ายๆ แบบเดิม แต่คราวนี้จะไม่มีซอมบี้มาเกี่ยวข้องด้วยเลย มีแค่ฉากซอมบี้ในความฝันของตัวเอก “เซบาสเตียน” (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นดีเทอร์ในภายหลังที่เราดูไปในภาคเวกัส) ซึ่งจุดนี้เองที่ผู้สร้างคงเตรียมเรื่องให้เชื่อมต่อกันไว้แบบหลวมๆ ก่อนด้วยประเด็นไซไฟที่อาจจะทำให้ตัวละครนี้กลับมาในอนาคตได้ (ภาคเวกัสมีทฤษฎีมิติเวลามาเกี่ยวข้อง มีความเป็นไปได้ว่าจะนำตัวละครที่ตายไปกลับมาเล่นได้อีก) ดังนั้นแนวสยองขวัญจากซอมบี้ก็แทบไม่มีในเรื่องนี้เลย

รีวิว Army of Thieves

ตัวเรื่องหันมาโฟกัสที่การปล้น โดยเป็นหนังแนววางแผนปล้นธนาคารหลายแห่งของยุโรป โดยมีตำรวจอินเตอร์โปลที่มีความแค้นกับทีมของเกวนมาตามไล่ล่าพวกเขา แต่อาจจะเพราะเรื่องตั้งใจให้เป็นแนวติดตลกอยู่แล้ว การวางแผนในเรื่องนี้จึงไม่ได้มีความลึกซับซ้อนแบบพวกหนังแนวรวมทีมปล้นแบบเรื่องอื่นๆ เลย เรียกว่าทำออกมาง่ายๆ ขำๆ ซะมากกว่า ไม่มีการใช้ปืนจริงยิงใคร ไม่มีฉากการตายหรือฉากกดดันแผนผิดพลาดเกิดขึ้นในเรื่อง มีแค่ฉากต่อสู่ด้วยมือเปล่ากับใช้ปืนลูกดอกยาสลบเล่นงานเท่านั้น ซึ่งทำให้ตัวเรื่องในส่วนนี้เบามากๆ จนเรียกว่าเป็นหนังปล้นแบบทำขำๆ เลยก็ว่าได้ แต่ก็ดูสนุกเพลินๆ ได้อยู่พอสมควร

 

ส่วนที่โฟกัสจริงๆ ของเรื่องคือการสร้างโลกของวงการเจาะตู้เซฟมากกว่า ด้วยการนำเสนอแนวดวลเจาะเซฟแข่งกันในตอนแรก ต่อมาด้วยการเจาะเซฟในตำนานที่เรื่องปูไว้แบบยิ่งใหญ่เหมือนแหวนในลอร์ดออฟเดอะริง ซึ่งก็มีให้เจาะในเรื่อง 3 ตู้เซฟในสถานการณ์ต่างๆ กัน จุดขายก็คือช่วงเวลาการเจาะของเซบาสเตียนที่ออกแนวเนิร์ดแบบที่เราได้ชมกันไปในภาคเวกัส มีการเปิดเพลงคลาสสิคระหว่างเจาะ พร้อมทั้งลีลาท่าทางการเจาะในแบบต่างๆ ผสมกับ CG กลไกของตู้เซฟแต่ละอันที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าโอเคเลยกับการมาโฟกัสโลกของเจาะเซฟแบบที่ยังไม่มีเรื่องไหนทำตรงนี้จริงจังมาก่อน และตัวเซบาสเตียนกับเกวนเองก็ออกแนวหลงใหลกับการเจาะเซฟในตำนานมากกว่าจะเป็นเรื่องเงินโดยตรง ซึ่งในจุดนี้เองตัวเรื่องก็ปูความเชื่อมโยงไปถึงตู้เซฟใบสุดในตำนานที่อยู่ลาสเวกัส พร้อมทั้งการใส่ปมดราม่าความรักของเซบาสเตียนกับเกวน (รับบทโดย Nathalie Emmanuel) โดยมีแฟนเก่าของเธอในทีมคอยขัดขวางความรักของทั้งคู่ ซึ่งส่วนผสมตรงนี้ช่วยเพิ่มน้ำหนักของการตัดสินใจเจาะเซฟในภาคเวกัสว่าทำไมดีเทอร์ถึงเห็นแบบแปลนตู้เซฟแล้วตกลงรับงานทันที ทั้งๆ ที่รู้ว่าการไปที่นั่นเสี่ยงอันตรายจากซอมบี้มาก

 

การที่มีหนังแยกเรื่องนี้ออกมาได้ก็เพราะคาแรกเตอร์ของตัวเอกในเรื่องนี้เด่นมากตั้งแต่ภาคเวกัสแล้ว ซึ่ง Matthias Schweighöfer ก็เป็นนักแสดงเยอรมันมาเล่นจริงๆ ตามบท คาแรกเตอร์มีเสน่ห์แบบเนิร์ดๆ ซึ่งเขาก็ยังคงเอกลักษณ์และเสน่ห์ในแบบเดิมไว้ได้ โดยมี Nathalie Emmanuel ในบทเกวนมาเป็นนางเอกผิวสีที่สวยมีเสน่ห์มาก ดูแล้วน่าหลงใหลตามบทที่เซบาสเตียนหลงชอบเธอได้ตั้งแต่แรก นอกจากนี้เธอจะได้เล่นฉากบู้ของเรื่อง 1 ฉาก ซึ่งการกำกับกับคิวบู๊ออกมาเท่ใช้ได้เลย ส่วนตัวละครอื่นในทีมก็ประกอบไปด้วยตัวละครตามสูตรอย่าง คนขับรถหลบหนี แฮ็กเกอร์ นักบู๊ ซึ่งสองคนแรกแทบจะไม่มีบทเด่นอะไรมากมายนัก แต่นักบู๊ที่เล่นโดย Stuart Martin เป็นแฟนเก่าของเกวนจะมีบทบาทมากหน่อยในเรื่อง พร้อมฉากแอ็กชั่นลุยเดี่ยวปล้นธนาคารที่ครีเอทออกมาดูเจ๋งใช้ได้เลย แต่ไม่ได้ออกมาแนวดุเดือดหรือสมจริงอะไรเพราะสไตล์ของเรื่องเน้นโอเว่อร์ติดตลกเป็นแนวทางหลักของฉากบู๊ในเรื่องนี้

    เว็บหนัง  

ใน Army of Thieves นั้น ชไนเดอร์มั่นอกมั่นใจในฝีไม้ลายมือของชเวกโฮเฟอร์ ถึงขึ้นยกโปรเจกต์ให้ไปโซโลเดี่ยว เหมารวมทั้งแสดงนำและกำกับด้วย ซึ่งชไนเดอร์ถอยหลังไปทำหน้าที่อำนวยการสร้าง เพราะเครดิตการทำงานของชเวกโฮเฟอร์นั้นก็โชกโชนพอควร เคยผ่านงานแสดงมาแล้วกว่า 70 เรื่อง เคยผ่านงานกำกับหนังและซีรีส์มาแล้ว 5 เรื่อง ก็นับว่าไม่ใช่มือใหม่พอวางใจให้คุมหนังโปรดักชันใหญ่เรื่องนี้ได้ ก็นับว่าชเวกโฮเฟอร์ รับมือกับโปรเจกต์ใหญ่เรื่องแรกของตัวเองได้อย่างน่าพอใจ ทั้งการแสดงนำที่ผสมผสานความเป็นอัจฉริยะกับบุคลิกรั่ว ๆ เปิ่น ๆ ได้อย่างลงตัว ใช้บุคลิกอันโดดเด่นที่ไม่ต้องหล่อก็จับความสนใจคนดูให้อยู่กับเขาได้ตลอด 2 ชั่วโมง นาตาลี เอ็มมานูเอล (Nathalie Emmanuel) เลื่อนขั้นจากบทสมทบในแฟรนไชส์ Fast และ Game of Thrones ขึ้นมารับบทนำหญิงเป็นครั้งแรก ต้องยอมรับเลยว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงผิวดำที่สวยและมีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัด

รีวิว Army of Thieves

 

หนังใช้จุดเชื่อมโยงเรื่องตู้เซฟในตำนานจาก Army of the Dead ที่ดีเทอร์เห็นผังแล้วกระดี๊กระด๊าตัดสินใจเข้าร่วมทีมเสี่ยงตายแม้ว่าตัวเองจะกลัวซอมบี้ หนังย้อนเล่าประวัติความเป็นมาของนักสร้างตู้เซฟผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน ที่ก่อนตายได้สร้างตู้เซฟในซีรีส์ไว้ 5 ตู้ ดีเทอร์ตอนที่ยังอยู่ในเยอรมันนั้นเขาเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารที่มีชีวิตน่าเบื่อไปวัน ๆ ส่วนตัวเขานั้นคลั่งไคล้ในเรื่องตู้เซฟในตำนานนี้มาก และฝึกสะเดาะตู้เซฟมาตั้งแต่เด็ก

 

วันที่เขาตัดสินใจโพสต์เล่าตำนานตู้เซฟลงในยูทูบ ก็เลยได้รับความสนใจจาก เกว็นโดลีน อาชญากรสาวสวยผู้กำลังตามล่าหาตู้เซฟทั้ง 5 ตู้ในตำนานนี้อยู่เช่นกัน จึงได้ชักชวนดีเทอร์ให้เข้าร่วมทีมสะเดาะตู้เซฟ

 

หนังเปิดเรื่องมาในบรรยากาศคล้าย ๆ Army of the Dead ด้วยการแนะนำตัวละครหลัก เริ่มจากดีเทอร์ มาถึงเกว็นโดลีน และเพื่อนร่วมทีมอีก 3 คน ที่มี แบรด เคจ เป็นขาลุยประจำทีม, รอล์ฟ นักซิ่งระดับพระกาฬ และโครินา แฮกเกอร์สาว ซึ่งก็บังเอิญอีกนะ ที่เพิ่งมี The Way Down หนังเล่าเรื่องหนุ่มอัจฉริยะเจาะตู้เซฟ ที่เพิ่งลงโรงฉายก่อนหน้านี้ไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้

 

 

เชย์ แฮตเทน (Shay Hatten) มือเขียนบทคนเดิมจาก Army of the Dead เจอโจทย์ยากพอควรที่จะต้องเล่าเรื่องอย่างไร ให้แตกต่างจากหนังจารกรรมตู้เซฟนับสิบเรื่องก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าหาแนวทางได้แปลกใหม่กับการสร้างเรื่องราวตู้เซฟในตำนานขึ้นมา ซึ่งก็นับว่าเป็นการปูทางได้น่าสนใจและชวนติดตาม และอีกจุดที่แตกต่างก็คือเราได้ดูดีเทอร์และเพื่อนร่วมแก๊งต้องวางแผนการเข้าถึงตู้เซฟถึง 3 ตู้ในเรื่องเดียว ซึ่งแต่ละตู้ก็อยู่ในที่แตกต่างกันทั้งธนาคาร และคาสิโน

 

การวางแผนการล่อหลอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในแต่ละสถานที่กว่าจะเข้าถึงตู้เซฟก็นับเป็นฉากที่ชวนลุ้นได้เบา ๆ แต่สิ่งท่ยังหนีไม่พ้นความจำเจของหนังจารกรรมก็คือทีมงานขาประจำในแก๊งปล้นที่ต้องมี นักซิ่ง และแฮกเกอร์ ร่วมอยู่ในทีม ซึ่งก็มักลงเอยด้วยความโลภและหักหลัง

 

เมื่อพระเอกของเรื่องเป็นนักสะเดาะตู้เซฟที่มีพรสวรรค์ระดับฟ้าประทานบวกกับเรื่องราวของตู้เซฟในตำนานแล้วนั้น ทำให้ทีมงานต้องทำการบ้านในการออกแบบตู้เซฟกันอย่างนัก ก็เป็นจุดที่น่าชื่นชมครับ ตู้เซฟทั้ง 3 ในเรื่องนี้ผ่านการออกแบบมาดูสมคุณค่า คือมีทั้งความน่าเกรงขามและความสวยงาม ดูมีความขลัง ด้วยความที่หนังให้เวลากับแต่ละตู้พอสมควร และเป็นการถ่ายภาพในระยะโคลสอัป ทีมงานจึงต้องใส่ใจกับพื้นผิวของแต่ละตู้กันแบบละเอียดยิบ และอีกจุดที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของฉากสะเดาะตู้เซฟได้มากก็คือภาพอินเสิร์ตภายในตู้เซฟ ที่แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวของกลไกภายในเต็มไปด้วยเฟือง ลูกกลิ้ง เดือย จำนวนมากมายสลับซับซ้อน ซึ่งก็ทำได้สวยงามและดูสมจริง เห็นชัดล่ะว่าผ่านกระบวนการออกแบบมาอย่างตั้งใจ เว็บดูหนัง

รีวิว Army of Thieves

ด้วยความที่หนังกำหนดให้เกิดเหตุในเยอรมัน และเดินทางไปจารกรรมตู้เซฟในหลาย ๆ ประเทศ คนดูก็เลยได้ของแถมเป็นฉากหลังทัศนียภาพสวย ๆ จากประเทศในยุโรปไปด้วย

 

ส่วนทีมตำรวจสากลในเรื่องนี้ ที่นำทีมโดย เดอลาครัวซ์ รับบทโดย โจนาธาน โคเฮน (Jonathan Cohen) น่าจะกล่าวได้ว่าเปลืองเวลาบนจอ เพราะช่างไร้พิษสง ตามหลังทีมของดีเทอร์แบบทิ้งห่างตลอด พอทีมตำรวจไร้น้ำยาเช่นนี้ก็เลยไม่เป็นอุปสรรคในการทำงานของทีมจารกรรม ไม่ได้ช่วยเพิ่มความระทึกในฉากปฏิบัติการปล้นเท่าที่ควร

 

แล้วก็ต้องเตือนกันไว้ก่อนว่า อย่าคาดหวังว่าจะเห็นซอมบี้วิ่งไล่คนในเรื่องนี้ เพราะนี่คือหนังจารกรรมตู้เซฟ ที่เหตุการณ์เกิดก่อน Army of the Dead จึงมีแค่การเอ่ยถึงวิกฤติการณ์ซอมบี้ที่เพิ่งแพร่ระบาดในสหรัฐฯ เท่านั้น

 

สรุป

 

หนังภาคแยกในจักรวาลซอมบี้ของ Zack Snyder ที่โอเคในระดับหนึ่งเลยกับการโฟกัสไปที่โลกของการเจาะตู้เซฟในตำนานโดยตรง ต่างจากหนังแนวรวมทีมปล้นอื่นๆ ที่เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเงินหรือแผนการเป็นหลัก แต่ก็ทำให้บทส่วนนี้อ่อนมาก เป็นแผนการแบบง่ายๆ ออกแนวปล้นได้ขำๆ มากกว่าซีเรียสรัดกุมแบบเรื่องอื่น ตัวเรื่องมีความเชื่อมโยงกับภาคเวกัสนิดหน่อยในเรื่องแรงจูงใจการไปเจาะเซฟที่นั่น พร้อมกับแอบแฝงทฤษฏีไซไฟมิติเวลาเพิ่มเข้ามานิดๆ

รีวิวหนัง   

จุดเด่น

ออกแบบตู้เซฟได้สวยงาม เห็นถึงความตั้งใจ

เห็นได้ถึงความพยายามที่จะแตกต่างจากหนังจารกรรมที่มีมาก่อนหน้า

แมทเธียส ชเวกโฮเฟอร์ สร้างบุคลิกลักษณะตัวละครดีเทอร์ให้มีเสน่ห์ จับความสนใจผู้ชมได้ตลอด

นาตาลี เอ็มมานูเอล สวยมาก ควรค่ากับตำแหน่งนำหญิง

 

จุดสังเกต

สะเดาะตู้เซฟง่ายเกินไป ไม่ให้รายละเอียดหรือเทคนิควิธีการ

ไคลแมกซ์ไม่ชวนลุ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *